คนอยากซื้อบ้านต้องอ่าน! ซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง ที่นี่มีคำตอบ

หนึ่งในความฝันของหลาย ๆ คนคืออยากซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่การจะซื้อบ้านสักหลังนั้นไม่ใช่ว่าจะสามารถซื้อได้ทันที เพราะกว่าจะเก็บเงินซื้อบ้านได้นั้นใช้เวลาไม่น้อยเลย ยิ่งสำหรับใครที่ต้องการจะกู้เงินเพื่อซื้อบ้านอาจต้องเตรียมตัวก่อนซื้อบ้านให้พร้อมก่อน ในบทความนี้เรา The Best Property จะขอแนะนำวิธีซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง โดยเฉพาะการซื้อบ้านหลังแรก ต้องทำอะไรบ้าง ให้คุณได้มีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายกว่าเดิม
 

1. เช็กรายละเอียดบ้านก่อนตัดสินใจ

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเราจะสามารถหาซื้อบ้าน เลือกดูบ้านที่สนใจได้ทางช่องทางออนไลน์ แต่การซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้างข้อแรก ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสองก็ตาม การเข้าไปเช็กรายละเอียดของบ้านก่อนตัดสินใจซื้อก็เป็นหนึ่งในขั้นตอนการซื้อบ้านที่จำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบ้านมือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว หากจะมีตำหนิจากการใช้งานหรือการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานก็เป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อย ๆ 

เพื่อให้คุณได้ซื้อบ้านที่ตรงสเปกมากที่สุดเรามีวิธีการเช็กรายละเอียดบ้านเพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
 

• ตรวจเช็กรายละเอียดรอบนอกบ้าน
  
  ก่อนเข้าไปดูภายในบ้าน เราควรจะเช็กรอบนอกบ้านด้วย เพราะถึงแม้ว่าภายในบ้านจะสวยตามสเปกแค่ไหน แต่ถ้ารายละเอียดรอบนอกบ้านไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ก็อาจทำให้บ้านของเราทรุดโทรมเร็ว หรือเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา รายละเอียดนอกบ้านที่ไม่ควรพลาดในการตรวจเช็กยกตัวอย่างเช่น
  
  
  • ผนังมีรอยร้าวหรือไม่ หากผนังมีรอยแตกร้าวอาจทำให้เกิดการรั่วซึมน้ำเข้าบ้านเวลาฝนตก ทำให้เฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของที่วางไว้ใกล้ ๆ จุดแตกร้าวเสียหาย และยังอาจเป็นจุดเข้าออกของสัตว์มีพิษหรือแมลงรบกวนอีกด้วย
  • ใกล้ ๆ ตัวบ้านมีต้นไม้ใหญ่หรือไม่ สำหรับใครที่เป็นสายธรรมชาติชื่นชอบการปลูกต้นไม้อาจรู้สึกว่าต้นไม้จะทำให้ตัวบ้านดูร่มรื่น แต่การมีต้นไม้ใหญ่ใกล้กับตัวบ้านมากเกินไปอาจทำให้รากไม้ไปดันพื้นโครงสร้างบ้านและอาจทำให้พื้นผนังแตกร้าวได้
     
  • พื้นรอบนอกบ้านอยู่ในสภาพที่ดีและเหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวหรือบ้านที่มีพื้นที่สวน พื้นที่เปล่าก่อนจะถึงตัวบ้าน หากพื้นเป็นหลุมเป็นบ่อ ปูพื้นนอกบ้านไม่ดี อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังเวลาฝนตก หรือเกิดอุบัติเหตุเวลาเดินได้ง่ายกว่า
  • รั้วบ้านมีสภาพดี สมบูรณ์หรือไม่ รั้วบ้านไม่ควรจะมีสนิม
    
     
• ตรวจเช็กสภาพตัวบ้าน
  
  การตัดสินใจซื้อบ้านนั้นอาจไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยของหลาย ๆ คน ดังนั้นเพื่อให้บ้านที่เราซื้อมาสามารถอยู่ไปได้ยาว ๆ จะต้องดูสภาพตัวบ้านเสียก่อน โดยรายละเอียดที่จะต้องดู ยกตัวอย่างเช่น
  
  
  • พื้นบ้าน : อาจเช็กว่าพื้นบ้านทำจากวัสดุอะไร หากเป็นพื้นไม้ก็อาจตรวจเช็กว่าพื้นเรียบเสมอกันไหม มีจุดไหนผุพังบ้างหรือเปล่า หรือถ้าเป็นกระเบื้องก็อาจตรวจเช็กว่ามีรอยร้าวหรือรอยแตกหรือไม่
  • ประตู หน้าต่าง : ตรวจเช็กว่าประตูและหน้าต่างสามารถเปิดปิดได้ปกติหรือไม่ มีอาการฝืด หรือเกิดการเผยอที่ทำให้เราปิดยากขึ้นหรือไม่ 
  • เพดาน และฝ้าปิดผนัง : เช็กดูว่าที่เพดานและฝ้ามีรอยรั่ว รูทะลุบ้างหรือไม่ หรือมีเชื้อราขึ้นหรือเปล่า
  • หลังคา : ควรจะตรวจดูว่ามีรอยแตกเป็นรูบ้างหรือไม่ เพราะหากหลังคาแตก มีรูรั่วอาจทำให้เกิดการรั่วซึม หรือกลายเป็นที่อยู่ของสัตว์และแมลงรบกวนได้
  • บันได : บันไดมีความสม่ำเสมอในแต่ละขั้นหรือไม่ เพราะหากบันไดมีขั้นไม่เท่ากันอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งเวลาเดินบนบันไดมีเสียงหรือไม่ มีราวจับที่มั่นคงหรือเปล่า
    
     
• ตรวจเช็กระบบสาธารณูปโภค
  
  ถึงตัวบ้านจะสมบูรณ์ แต่หากระบบน้ำไฟไม่ดีก็สามารถสร้างความลำบากให้กับคุณได้ ดังนั้นควรจะเช็กระบบน้ำ ระบบไฟให้เรียบร้อยว่าน้ำไหลเป็นปกติหรือไม่ ไฟติดเป็นปกติหรือเปล่า มีจุดไหนรั่วซึมหรือไม่ การไหลของท่อระบายน้ำมีอาการตันหรือเปล่า และควรจะเช็กด้วยว่ามิเตอร์น้ำไฟหมุนเองทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้เปิดใช้งานหรือไม่ 
   

การตรวจสอบสภาพบ้านก่อนตัดสินใจซื้อบ้านนั้นจะช่วยให้เราได้สภาพบ้านที่เหมาะสมกับราคาบ้านที่สุด และหากพบปัญหาแต่แรกก็จะได้สามารถแจ้งซ่อมก่อนโอนรับบ้าน ทำให้เราไม่เสียสิทธิและไม่เกิดปัญหากวนใจตามมา
 

2. คำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน

จะซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง? นอกจากตรวจสภาพบ้านที่ถูกใจแล้ว เราจะต้องคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านอีกด้วย ในปัจจุบันมีจำนวนคนที่ซื้อบ้านด้วยเงินสดโดยที่ไม่ผ่อนไม่กู้เป็นส่วนน้อย ส่วนมากก็จะต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อบ้านเกือบทั้งนั้น 

ปกติแล้วทางสถาบันการเงินจะพิจารณาความสามารถในการผ่อนบ้าน โดยการนำรายได้และหนี้สินทั้งหมดมาพิจารณา ซึ่งความสามารถในการผ่อนบ้านโดยที่ไม่มีภาระหนี้สินอื่น ๆ จะตกอยู่ที่ 60% ของรายได้ และตัวเลขเปอร์เซ็นต์ความสามารถในการผ่อนบ้านสามารถลดลงได้อีกหากมีภาระหนี้สินอื่น ๆ เข้ามาด้วย

ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะมีเงินเดือนสูง แต่ถ้ามีภาระหนี้สูงจะทำให้สถาบันการเงินตีความสามารถในการผ่อนบ้านของเราลดลงและทำให้เราสามารถกู้วงเงินซื้อบ้านได้ลดลงนั่นเอง
 

3. กำหนดงบในการซื้อบ้าน

เพื่อให้คุณสามารถซื้อบ้านได้เหมาะสมกับตนเองที่สุด ควรจะต้องพิจารณาจากเงินเดือนผ่อนบ้าน เงินเดือนเท่านี้ สามารถผ่อนบ้านราคาเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้คุณรู้สึกเหนื่อยและลำบากในการผ่อนบ้านมากเกินไป ซึ่งปกติแล้วทางสถาบันการเงินจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อกู้บ้านให้กับผู้กู้โดยมีเงื่อนไขว่าผู้กู้จะรับภาระหนี้สินได้มากสุด 60% ของรายได้ต่อเดือน และจะสามารถกู้เงินได้เต็มวงเงินก็ต่อเมื่อไม่มีภาระหนี้สินอื่น ๆ 

คุณสามารถกำหนดงบในการซื้อบ้านด้วยการนำเงินเดือนซึ่งเป็นรายได้มาคูณกับความสามารถในการรับภาระหนี้สิน 60% หักลบภาระหนี้สิน (ถ้ามี) และ หารด้วยราคาผ่านต่อเดือน ก็จะได้จำนวนวงเงินสูงสุดที่คุณสามารถกู้สินเชื่อบ้านได้

ยกตัวอย่างเช่น มีรายได้ประจำ 20,000 บาท ไม่มีภาระหนี้สินอื่น ๆ อยู่ก่อนเลย เมื่อคำนวณความสามารถในการแบกรับหนี้สินใหม่จะอยู่ที่ 20,000 x 60% = 12,000 บาท ดังนั้นความสามารถในการกู้เงินซื้อบ้านได้จะอยู่ที่สูงสุด 12,000 ÷ 6,500 = 1.8 ล้านบาท

จากตัวอย่างที่แสดง ถ้าคุณมีรายได้อยู่ที่ 20,000 บาทต่อเดือนก็ควรจะกำหนดงบในการซื้อบ้านไม่เกิน 1.8 ล้านบาทนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมคำนวณเงินเผื่อสำหรับการสร้างหนี้อื่นในอนาคต รวมถึงค่าโอนบ้าน หรือ ดอกเบี้ยบ้านเอาไว้ด้วย
 

4. เคลียร์หนี้เก่าไม่ให้เหลือ

หากคุณต้องการซื้อบ้าน ไม่ว่าจะบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสองและไม่มีเงินสดเป็นก้อนเพื่อจ่ายซื้อบ้านทีเดียวก็สามารถกู้ยืมเงินซื้อบ้านกับธนาคารและสถาบันการเงินได้ แต่เพื่อให้การพิจารณากู้ยืมเงินซื้อบ้านผ่านง่ายขึ้นและได้วงเงินมากขึ้น คุณก็ควรจะเคลียร์หนี้เก่าให้หมดเสียก่อน เพราะถ้าหากคุณยังมีหนี้คงค้างอยู่ ก็อาจทำให้คุณได้รับวงเงินกู้ที่ต่ำลง หรือถ้าคุณเป็นผู้ที่มีภาระหนี้สินเยอะก็อาจทำให้กู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่านเลยก็ได้
 

5. เริ่มเก็บออมเงินซื้อบ้าน

ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง นอกจากเราจะต้องคำนวณรายได้ของเรากับความสามารถในการแบกรับหนี้ กำหนดงบซื้อบ้าน และเคลียร์หนี้สินเก่าไม่ให้เหลือแล้ว ก็ควรจะต้องวางแผนการออมเงินไว้ด้วย เพื่อให้เราสามารถปิดภาระหนี้บ้านและได้ครอบครองบ้านได้เร็วขึ้น โดยการออมเงินสำหรับซื้อบ้านเราขอแนะนำว่าให้ออมเงินไว้ให้ได้ 20% ของราคาบ้านที่ต้องการผ่อน
 

6. เตรียมเอกสารกู้ซื้อบ้าน

สิ่งสุดท้ายของการซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง คือการเตรียมเอกสารสำหรับกู้ซื้อบ้านให้พร้อม หากคุณคิดว่าคุณพร้อมที่จะซื้อบ้านและรับภาระหนี้สินแล้ว ก็สามารถเตรียมเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อยื่นแก่สถาบันการเงินได้เลย

• เอกสารแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี) และทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
• เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน สเตตเมนต์ย้อนหลัง 6 เดือน
• เอกสารอื่น ๆ เช่น ใบรับรองการทำงาน

The Best Property เชี่ยวชาญการซื้อ-ขายบ้าน

หากคุณอยากซื้อบ้าน ไม่รู้ว่าซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง สามารถใช้บริการเรา The Best Property เราเป็นผู้นำด้านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือแม้แต่ที่ดิน เรายินดีให้คำปรึกษา หากสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางนี้

• Line : @thebestproperty
• Website : https://tb.co.th/
• Tel : 02-047-4282

ข้อสรุป ซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง 

ก่อนจะซื้อบ้านต้องเตรียมตัวอะไรบ้างเพื่อให้ความฝันในการมีบ้านเป็นของตัวของของคุณเป็นจริง สามารถนำข้อแนะนำของเราไปปรับใช้ได้เลย แต่หากรู้สึกยุ่งยากหรือมีข้อสงสัย The Best Property เราพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้คุณได้ซื้อบ้านที่ดีที่สุด เหมาะสมกับคุณที่สุด และให้คุณได้เป็นเจ้าของบ้านตัวจริงเร็วที่สุด