บทความความรู้เรื่องบ้าน คำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน รายได้เท่านี้กู้ได้เท่าไร ไปดูกัน
บทความ
บทความความรู้เรื่องบ้าน

คำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน รายได้เท่านี้กู้ได้เท่าไร ไปดูกัน

6 กันยายน 2565

การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านมีวิธีคิดอย่างไร? และข้อห้ามในการเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ในสัดส่วนห้ามเกินกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้เรา? ทาง The Best Property จึงยกตัวอย่างคำนวณการประมาณรายได้ หนี้สิ้น ความสามารถในการผ่อนบ้าน และการคำนวณวงเงินกู้สูงสุด เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการประกอบสินเชื่อบ้านแก่ธนาคารได้อย่างมั่นใจได้ในบทความนี้ 

การคำนวณรายได้ที่ธนาคารนับเป็นรายได้

“รายได้” เป็นหนึ่งในข้อมูลเอกสารสำคัญ ให้กับทางสถาบันการเงินที่ผู้กู้ยื่นเรื่อง เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านได้อย่างมั่นคงมากแค่ไหน ทางธนาคารจึงคำนวณความสามารถในการกู้จากการพิจารณาภาระหนี้ของผู้กู้แต่ละเดือน การวางแผนการเงิน วงเงินกู้บ้าน และการประมาณรายได้ทั้งหมด แล้วธนาคารตรวจเช็ครายรับประเภทใดบ้างในการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • รายได้คงที่ (Steady Income) เป็นรายรับที่ผู้กู้ได้จำนวนเงินอย่างมั่นคง เช่น เงินเดือน เงินโบนัสประจำปี (Fix Bonus) เป็นต้น
  • รายได้ไม่คงที่  (Unsteady Income) เป็นรายได้ที่ได้รับหรือไม่ได้บางโอกาส โดยรายได้ประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในพฤติกรรมการหาเงินของผู้กู้ และปัจจัยภายนอกที่แหล่งหาเงินจะให้รายได้แก่ผู้กู้ เช่น ค่าล่วงเวลา (Overtime : OT) , ยอดขาย (Commission) , ค่าบริการ (Service Charge) , โบนัส (Variable Bonus) เป็นต้น

แม้รายได้คงที่ และรายได้ไม่คงที่ เป็นข้อมูลหลักที่ทางสถาบันการเงินจะทำการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน แต่กฎระเบียบในการอนุมัติสินเชื่อจะขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละธนาคารพิจารณาประเมินกู้บ้านจากรายได้แต่ละสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน 

ตัวอย่างการประมาณรายได้

การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน จะเริ่มต้นจากตัวอย่างรายรับของบุคคลที่ทำงานประจำ มีการคํานวณรายได้ซื้อบ้าน ดังนี้

ตัวอย่าง คุณ X เป็นพนักงานประจำ ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด สังกัดอยู่ในบริษัทโฆษณา เงินเดือน 40,000 บาท ค่าตำแหน่งได้เท่ากันทุกเดือน 5,000 บาท มีโอทีอัพเดทปัจจุบัน 6 เดือน ได้แก่ 6,000 บาท ,  7,000 บาท , 6,000 บาท , 5,000 บาท , 6,000 บาท และ 6,000 บาท  มีภาระหักเงินกู้สหกรณ์ 3,000 บาท ปีที่ผ่านมา คุณ X ได้รับโบนัส 6 เดือน จึงมีวิธีคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านของคุณ X ดังนี้

การประเมินกู้บ้านจากการประมาณรายได้/เดือน

  1. เงินเดือน = 40,000 บาท
  2. รายรับคงที่ได้เท่ากันทุกเดือน = 5,000 บาท
  3. รายรับไม่คงที่เฉลี่ย 6 เดือน 6,000+7,000+6,000+5,000+6,000+6,000 = 6,000 บาท/เดือน (เฉลี่ย)
  4. โบนัส 6 เดือน 40,000*6=240,000/12= 20,000 บาท

คิดรายได้รวมทั้งหมด เฉลี่ยน/เดือน 40,000+5,000+6,000+20,000 = 71,000 บาท

ภาระหนี้ของผู้กู้

คิดภาระ 2 ส่วน ในสลิป และ ในเครดิตบูโร 

  1. ค่าผ่อนรถจักรยานยนต์ คิดตามเงินค่างวดแต่ละเดือน = 3,000 บาท
  2. บัตรเครดิตบัตรกดเงินสด คิด 10% ของวงเงินที่ใช้ นาย X ใช้ไป 50,000 บาท = 5,000 บาท 
  3. ในสลิปเงินเดือน เงินกู้สหกรณ์ = 3,000 บาท 

ภาระรวม 3,000 + 5,000 + 3,000 = 11,000 บาท

สามารถคำนวณได้ดังนี้

สูตรคำนวณ คิดภาระหนี้ 60% หมายความว่าใน 100 บาท สามารถเป็นหนี้ได้ทั้งหมด 60 บาท อีก 40 บาท หักไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน 

  1. นำรายได้รวมทั้งหมดมาคิดภาระหนี้ที่สามารถแบกรับได้  71,000*60% = 42,600 บาท 
  2. นำมาหักภาระหนี้ทั้งหมด 42,600 - 11,000 = 31,600 บาท 

การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านจากการรวบรวมประมาณรายได้ทั้งหมด ถ้าค่างวดผ่อนล้านละ 6,500 บาท  = 31,600 / 6,500 บาท = 4.86 ล้าน 

     สรุป คุณ X จะสามารถกู้บ้านได้ที่ราคา 4.86 ล้านบาท

การเพิ่มวงเงิน ลดภาระหนี้ เพิ่มผู้กู้ร่วม 

ภาระที่ปิดแล้วหักลบภาระหนี้ได้ทันที สินเชื่อบุคคลทุกประเภทที่ไม่มีบัตร รถ บ้าน สินเชื่อที่มีค่างวด Fix 

สามารถแนบใบแจ้งหนี้ล่าสุด ควบคู่สลิปการโอนหรือใบเสร็จการชำระได้เลย 
การเพิ่มคะแนนสกอริ่ง พยายามอย่าสร้างหนี้เพิ่ม บัตร สินเชื่อทุกประเภท ห้ามใช้วงเงินเกิน 75% ชำระค่างวดให้ตรงตามกำหนดชำระทุกเดือน 

การคำนวณหนี้สิน

“หนี้สิน” เป็นรายจ่ายที่ผู้กู้ต้องบังคับจ่ายโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยทางธนาคารจึงพิจารณาการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน จากหนี้สินของผู้กู้ที่มีลักษณะการผ่อนชำระแต่ละเดือน ดังนี้

  • หนี้บัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิต รวมกันเป็น สัดส่วน 10% โดยคิดจากยอดหนี้ล่าสุด 
  • หนี้ผ่อนรถยนต์  โดยคิดจากอัตราค่างวดผ่อนในแต่ละเดือน ในกรณีเหลือ 3 งวดสุดท้าย จะไม่นำมาคิด (โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละธนาคาร)
  • หนี้ผ่อนบ้าน  โดยคิดจากอัตราผ่อนแต่ละเดือน ในกรณีเหลือ 3 งวดสุดท้าย จะไม่นำมาคิด (โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละธนาคาร)
  • ภาระหนี้ในสลิปเงินเดือน ที่ได้รับการยกเว้นไม่นำมาหักเป็นภาระหนี้สิน ( ภาษี, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประกันสังคม )


ตัวอย่างการประมาณหนี้สิน

การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน จะคิดจากจำนวนหนี้สิ้นแบบรายเดือน ดังนี้

รายจ่ายภาระหนี้ของคุณ X มีรายจ่าย/เดือน ดังนี้

  1. ค่าบัตรเครดิต 50,000 บาท คิดจากสัดส่วน 10% จากหนี้ยอดจ่ายล่าสุด = 50,000/10 = 5,000 บาท
  2. ค่าผ่อนรถ 60,000 คิดจากสัดส่วน 100% จึงเหลือผ่อนเพียง 2 งวด จึงไม่นำมาคิดรายจ่ายภาระหนี้ = 0 บาท
  3. ค่าผ่อนบ้าน 18,000 บาท คิดจากสัดส่วน 100%

สรุป การคำนวณรวมหนี้สิ้นทั้งหมด = 5,000+18,000 = 23,000 บาท

การคำนวณความสามารถทางการเงินในการผ่อนบ้านของผู้กู้

ธนาคารจะทำการคำนวณความสามารถในการกู้ซื้อบ้านของผู้กู้ โดยนำรายได้และภาระหนี้สินทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนี้รถยนต์ หนี้ผ่อนบ้าน และภาระอื่น ๆ  มาประกอบพิจารณาตัดสินอนุมัติสินเชื่อโดยมีรายจ่ายทั้งหมดไม่เกิน 60% ของรายได้ผู้กู้ต่อเดือน 

ตัวอย่างการประมาณความสามารถทางการเงิน

การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน เพื่อค้นหาความสามารถในผ่อนหนี้สินที่มียอดจ่ายไม่เกิน 60% ของรายได้ ทาง The Best ได้สรุปตารางเงินเดือนดังนี้

รายได้วงเงิน (ประมาณ)
15,000 บาท1.2 ล้านบาท
20,000 บาท1.8 ล้านบาท
25,000 บาท2.3 ล้านบาท
30,000 บาท2.7 ล้านบาท
35,000 บาท3.2 ล้านบาท
40,000 บาท4.3 ล้านบาท
45,000 บาท4.8 ล้านบาท
50,000 บาท5.3 ล้านบาท

จากตารางที่กล่าวมา จะเป็นวงเงินกู้สำหรับผู้ที่ไม่มีภาระหนี้สิ้นเท่านั้น ซึ่งตัวเลขวงเงินอาจเปลี่ยนแปลงราคาได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารที่ผู้กู้ยื่นกู้สินเชื่อภายหลัง 

นอกจากนี้ ยังมีตารางผ่อนตามระยะเวลาโดยสังเขป ให้ผู้กู้คํานวณความสามารถในการผ่อนบ้านแบบคร่าวได้ ดังนี้

ระยะเวลาผ่อนกู้บ้าน 1 ล้าน (ผ่อนล้านละ)
30 ปี6,500
25 ปี6,900
20 ปี7,600
15 ปี8,900
10 ปี11,500
5 ปี19,700 

การคำนวณวงเงินกู้

การคํานวนวงเงินสินเชื่อบ้าน ทางธนาคารจะทำการอนุมัติวงเงินกู้กับผู้กู้ที่ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์แต่ละธนาคารที่ให้ โดยผู้กู้จะต้องชำระดอกเบี้ยตามจำนวนเงินกู้ตามสัญญากำหนดที่ทางธนาคารระบุไว้

ตัวอย่างการประมาณวงเงินกู้

การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน เพื่อค้นหาวงเงินกู้ที่ผู้สามารถกู้เงินได้สูงสุง ดังนี้

     ตัวอย่าง คุณ X มีรายได้ 25,000 บาท มีภาระได้ 60% ของรายได้เป็น 15,000 บาท ปัจจุบันมีภาระหนี้ 3,000 บาท ทำให้มีภาระหนี้เพิ่มอีก 12,000 บาท ในระยะเวลา 25 ปี ตกผ่อนล้านละ 6,900 บาท จะมีการคำนวณความสามารถในการกู้โดย

     วิธีคิด นำ ภาระหนี้เพิ่มได้อีก ÷ ค่าผ่อนล้านละ = 12,000 ÷ 6,900 = 1.73

     สรุป การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านจากการหาภาระหนี้ปัจจุบันของคุณ X จะสามารถขอสินเชื่อบ้านได้ในวงเงินไม่เกิน 1.73  ล้านบาท

สูตรคำนวณยอดผ่อน

การคํานวนยอดผ่อนสินเชื่อบ้าน The Best Property แนะนำวิธีการคำนวณเป็น 2 แบบ ได้แก่

กรณีที่ 1 ผู้ซื้อ “รู้ราคาเต็มของบ้าน” แต่ไม่ทราบจำนวนเงินที่ต้องใช้ผ่อนต่อเดือน ให้ตั้งสมการ ยอดผ่อนล้านละเป็นตัวตั้ง X และแปลงราคาบ้านเป็นตัวเลขทศนิยม

     ตัวอย่าง ซื้อบ้านราคา 2,500,000 บาท ในระยะเวลาสัญญาผ่อนเป็น 30 ปี จึงตกล้านละ 6,500 บาท 

     วิธีคิด หาค่า ยอดผ่อนล้านละ X บาท =  จำนวนเงินระยะเวลาสัญญาผ่อน * ราคาบ้าน  = 6,500*2.5 ดังนั้น X = 16,250

     สรุป  ยอดผ่อนบ้านราคา 2,500,000 บาท ผู้กู้ต้องผ่อน 16,250 บาทต่อเดือน

กรณีที่ 2 ผู้ซื้อ “รู้จำนวนยอดผ่อนบ้าน” แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อบ้านราคาเท่าไหร่  ให้ตั้งสมการ เอายอดที่ต้องการผ่อนเป็นตัวตั้ง ÷ ยอดผ่อนล้านละ 

     ตัวอย่าง ผู้ซื้อต้องการผ่อน 12,000 บาทต่อเดือน ในระยะเวลาสัญญาผ่อนเป็น 30 ปี จึงตกล้านละ 6,500 บาท

     วิธีคิด หาค่า ราคาบ้าน X บาท  =  จำนวนเงินต้องการผ่อน ÷ จำนวนเงินตามระยะเวลาสัญญาผ่อน = 12,000 ÷ 6,500  =  1.84 

     สรุป ผู้ซื้อสามารถกู้ซื้อบ้านได้ในราคา 1,840,000 บาท

สรุปการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน

ผู้ที่ทำสัญญาสินเชื่อในการผ่อนบ้าน ควรตวรจเช็คประเภทสินเชื่อและระยะเวลาในการกู้ให้ถี่ถ้วน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยแต่ละธนาคาร มีการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านไม่เท่ากัน ดังนั้นผู้กู้ควรวิเคราะห์ความสามารถในการผ่อนบ้านแบบเบื้องต้น เพื่อเป็นหลักฐานข้อมูลประกอบให้กับทางธนาคารตัดสินการทำอนุมัติสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ