บทความสาระน่ารู้ คัดมาแล้ว! วิธีโปะบ้าน ลดต้นลดดอก ให้บ้านปลอดหนี้เร็วขึ้น
บทความ
บทความสาระน่ารู้

คัดมาแล้ว! วิธีโปะบ้าน ลดต้นลดดอก ให้บ้านปลอดหนี้เร็วขึ้น

17 พฤศจิกายน 2566

 


เป็นเรื่องปกติที่คุณจะยื่นขอสินเชื่อบ้านเพื่อซื้อบ้านที่อยู่อาศัยและผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ ไป แต่ทราบหรือไม่ว่าการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อกู้บ้านจะต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย เมื่อรวมยอดที่ต้องจ่ายไปทั้งหมด คุณแทบจะซื้อบ้านอีกหลังได้เลย ยิ่งหากคุณผ่อนชำระขั้นต่ำ หรือมีปัจจัยใดที่ทำให้ผ่อนชำระไม่ตรงงวด โอกาสที่ดอกเบี้ยจะแพงกว่าเงินต้นก็สูงขึ้น

เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่พุ่งขึ้นเรื่อย ๆ “การโปะบ้าน” ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้เงินที่คุณจ่ายไปในแต่ละงวดไปหักกันเงินต้นมากกว่า เมื่อเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยจึงลดตามไปด้วย เพราะสินเชื่อบ้านคิดดอกเบี้ยรูปแบบลดต้นลดดอกนั่นเอง

แต่การโปะบ้านยังสามารถแบ่งวิธีโปะบ้านได้อีก 3 วิธี ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ต่างกันอย่างไรเราไปดูกันได้เลยในบทความนี้ 
 

โปะบ้านมีวิธีไหนบ้าง? เลือกโปะบ้านแบบไหนดี?

 

การโปะบ้าน คือ การที่เราชำระค่าบ้านในแต่ละงวดเกินกว่าที่ตกลงไว้ในสัญญาสินเชื่อบ้าน ซึ่งเงินที่เกินนั้นจะถูกหักกับเงินต้น ทำให้ในงวดต่อมาเราจะจ่ายดอกเบี้ยลดลงนั่นเอง หรือพูดง่าย ๆ คือ ‘โปะเงินต้น ลดดอกเบี้ย หมดหนี้เร็วขึ้น’ 

ซึ่งวิธีโปะบ้านมีทั้งแบบจ่ายยอดเกินในทุก ๆ งวด หรือจะยกไปจ่ายยอดเกินเป็นก้อนปีละ 1 ครั้ง หรือถ้ามีเงินก้อนใหญ่มากก็นำมาโปะทีเดียวก็ได้ เราไปดูความแตกต่างของแต่ละวิธีกันเลย
 

โปะบ้านเพิ่มทุกงวด

 

การโปะบ้านเพิ่มทุกงวด หรือโปะบ้านรายเดือนนั้นเป็นการชำระค่าบ้านเกินกว่าที่ระบุไว้ในสัญญาสินเชื่อบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ในสัญญาระบุไว้ว่าจะต้องชำระเดือนละ 15,000 บาท คุณอาจจะเพิ่มเงินเข้าไปเป็นชำระเดือนละ 20,000 บาท ส่วนต่าง 5,000 บาทนี้ก็จะถูกนำไปหักกับเงินต้น ทำให้งวดต่อ ๆ ไปดอกเบี้ยก็จะลดลงและเราก็จะสามารถจ่ายเงินต้นได้มากขึ้น
 

โปะบ้านปีละครั้ง

 

การโปะบ้านปีละครั้งเป็นการชำระค่าบ้านเกินกว่าที่ระบุไว้ในสัญญาสินเชื่อบ้านเช่นเดียวกับแบบแรก แต่แทนที่จะจ่ายทุกเดือน เดือนละเล็กละน้อย เป็นจ่ายเงินก้อนทีเดียวเพียงครั้งเดียวในรอบปี ยกตัวอย่างเช่น ในสัญญาระบุให้ชำระเดือนละ 15,000 บาท คุณอาจชำระยอดตามสัญญาไป 11 เดือน ส่วนอีก 1 เดือนให้ชำระก้อนใหญ่ไปเลย หากในตอนแรกคิดจะจ่ายเกินเดือนละ 5,000 บาท คุณก็อาจจ่ายทีเดียว 60,000 บาทบวกกับเงินที่ต้องชำระทุกเดือนอย่าง 15,000 บาท 

แต่แนะนำว่าให้จ่ายในช่วงต้นปีเนื่องจากจะช่วยให้คุณลดดอกเบี้ยได้มากกว่ารวมเงินไปจ่ายท้ายปีนั่นเอง
 

โปะบ้านเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียวตลอดสัญญา

 

ยิ่งเราชำระเงินก้อนใหญ่มากแค่ไหน โอกาสที่จะปิดหนี้บ้านก็ยิ่งเร็วเท่านั้น หากในวันหนึ่งคุณมีเงินก้อนใหญ่มาก เช่น ได้โบนัสก้อนโต หรือได้เงินเกษียนจากผู้ใหญ่ในบ้าน ก็สามารถนำเงินก้อนนี้ไปชำระค่าผ่อนบ้านเพื่อให้ไปหักกับเงินต้นให้มากที่สุด 

ยกตัวอย่างเช่น ในสัญญาสินเชื่อบ้านระบุให้จ่ายเดือนละ 15,000 บาทจำนวน 240 งวด (20 ปี) แต่คุณมีความสามารถในการชำระเงินเดือนละ 20,000 บาทตลอด 20 ปี ในการชำระงวดแรกคุณสามารถชำระก้อนใหญ่ทีเดียวเป็นจำนวนเงิน 1,200,000 บาท (คิดจากส่วนเกินเดือนละ 5,000 บาทเป็นจำนวน 240 งวด) การโปะบ้านลักษณะนี้จะทำให้เราสามารถจ่ายเงินต้นได้มาก เมื่อเงินต้นลดลงก็ยิ่งทำให้เราจ่ายดอกน้อยละปิดหนี้เร็วขึ้น 

การโปะบ้านทั้งสามรูปแบบนั้นอาจเหมาะกับผู้คนที่ต่างกัน ใครจะเหมาะกับแบบไหนบ้าง?

  • สำหรับแบบแรกที่จ่ายเกินทุกงวด งวดละนิดละหน่อยจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำ และมีรายจ่ายคงที่ทุก ๆ เดือน สามารถวางแผนเงินได้ระยะยาว 
  • สำหรับแบบที่จ่ายก้อนปีละครั้ง เหมาะกับผู้ที่มีรายได้ไม่คงที่ อาจได้เงินทีเป็นก้อนใหญ่ เช่นกลุ่มอาชีพอิสระ 
  • สำหรับแบบสุดท้าย โปะเป็นก้อนใหญ่ทีเดียวตลอดสัญญา จะเหมาะกับผู้ที่มีก้อนใหญ่มาก ๆ อยู่แล้ว หรือมีเก็บเงินซื้อบ้านประมาณหนึ่ง

 

แนะนำวิธีที่ช่วยลดดอกเบี้ย ลดภาระ ได้บ้านปลอดหนี้เร็วขึ้น!

 

นอกจากการโปะบ้านแล้วยังมีวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยลดดอกเบี้ย ให้คุณได้จ่ายเงินต้นได้มาก ประหยัดเงินกว่า และปิดหนี้ได้บ้านเดี่ยวเร็วยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
 

Refinance

 


สินเชื่อบ้านทั่วไปมักจะมีโปรโมชันลดดอกเบี้ยในอัตราต่ำเป็นเวลา 3 ปีก่อนที่ดอกเบี้ยจะลอยตัว ส่งผลให้คุณจ่ายเงินต้นได้ลดลงเพราะจะเสียเงินไปกับการจ่ายดอกที่สูงขึ้น 

การรีไฟแนนซ์จะช่วยให้คุณกลับมาจ่ายค่าบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำเหมือนช่วงโปรโมชัน เพราะการรีไฟแนนซ์จะเป็นการเปลี่ยนเจ้าหนี้รายใหม่ โดยที่เจ้าหนี้รายใหม่มักจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเพื่อดึงดูดให้เราไปเป็นลูกหนี้นั่นเอง

หากครบ 3 ปีให้รีไฟแนนซ์ไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้คุณสามารถคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ได้ตลอด ประหยัดเงินที่ต้องเสียไปกับดอกเบี้ยได้ไม่น้อยเลย 
 

Retention

 


Retention จะคล้ายกับการรีไฟแนนซ์เนื่องจากมีจุดประสงค์เพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน แต่การ Retention จะเป็นการขอปรับลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ซึ่งต่างจากรีไฟแนนซ์ที่เป็นการย้ายเจ้าหนี้ใหม่เพื่อได้อัตราดอกเบี้ยต่ำ 

สำหรับการ Retention มีข้อดีที่ว่ามีการดำเนินเรื่องที่ง่ายกว่า ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเดินเอกสารใหม่ แต่อาจได้อัตราดอกเบี้ยที่ไม่ต่ำเท่ากับการรีไฟแนนซ์นั่นเอง และที่สำคัญการ Retention จะมีข้อพิจารณาที่ยุ่งยากกว่ารีไฟแนนซ์เนื่องจากสถาบันการเงินเดิมจะรู้นิสัยการชำระเงินของเราแบบหมดไส้หมดพุงเลยทีเดียว หากประวัติไม่ดีจริงการอนุมัติ Retention ก็มีโอกาสไม่ผ่านสูง
 

ผ่อนชำระให้ตรงเวลา

 


วิธีนี้อาจไม่ได้ช่วยลดต้นลดดอกแบบสังเกตเห็นได้ชัด แต่การผ่อนชำระให้ตรงเวลาจะเป็นการป้องกันไม่ให้เราต้องเสียค่าปรับ ยิ่งทำให้เราต้องหมดเงินไปกับการผ่อนบ้านยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างเครดิตทางการเงินที่ดี เมื่อคุณต้องการ Refinance หรือ Retention ก็จะผ่านการอนุมัติง่ายขึ้น
 

อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ต้อง The Best Property 

 

จะซื้อบ้านหลังแรกทั้งทีแต่ไม่มีคนแนะนำเรื่องการซื้อบ้านและการขอสินเชื่อ อาจทำให้คุณต้องลำบากกันการจ่ายดอกเบี้ยบ้านมหาโหดในภายหลัง ที่ The Best Property ผู้นำด้านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท พร้อมบริการจัดสินเชื่อบ้านให้เหมาะกับคุณที่สุด รวมถึงแนะนำวิธีโปะบ้านอย่างไรให้คุ้มค่า ลดดอกเบี้ย ได้บ้านเป็นของคุณจริง ๆ โดยเร็ว สนใจซื้อบ้าน นึกถึง The Best Property ติดต่อเราได้ที่