คำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน รายได้เท่านี้กู้ได้เท่าไร ไปดูกัน
การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านมีวิธีคิดอย่างไร? และข้อห้ามในการเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ในสัดส่วนห้ามเกินกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้เรา? ทาง The Best Property จึงยกตัวอย่างคำนวณการประมาณรายได้ หนี้สิ้น ความสามารถในการผ่อนบ้าน และการคำนวณวงเงินกู้สูงสุด เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการประกอบสินเชื่อบ้านแก่ธนาคารได้อย่างมั่นใจได้ในบทความนี้
การคำนวณรายได้ที่ธนาคารนับเป็นรายได้
“รายได้” เป็นหนึ่งในข้อมูลเอกสารสำคัญ ให้กับทางสถาบันการเงินที่ผู้กู้ยื่นเรื่อง เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านได้อย่างมั่นคงมากแค่ไหน ทางธนาคารจึงคำนวณความสามารถในการกู้จากการพิจารณาภาระหนี้ของผู้กู้แต่ละเดือน การวางแผนการเงิน วงเงินกู้บ้าน และการประมาณรายได้ทั้งหมด แล้วธนาคารตรวจเช็ครายรับประเภทใดบ้างในการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- รายได้คงที่ (Steady Income) เป็นรายรับที่ผู้กู้ได้จำนวนเงินอย่างมั่นคง เช่น เงินเดือน เงินโบนัสประจำปี (Fix Bonus) เป็นต้น
- รายได้ไม่คงที่ (Unsteady Income) เป็นรายได้ที่ได้รับหรือไม่ได้บางโอกาส โดยรายได้ประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในพฤติกรรมการหาเงินของผู้กู้ และปัจจัยภายนอกที่แหล่งหาเงินจะให้รายได้แก่ผู้กู้ เช่น ค่าล่วงเวลา (Overtime : OT) , ยอดขาย (Commission) , ค่าบริการ (Service Charge) , โบนัส (Variable Bonus) เป็นต้น
แม้รายได้คงที่ และรายได้ไม่คงที่ เป็นข้อมูลหลักที่ทางสถาบันการเงินจะทำการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน แต่กฎระเบียบในการอนุมัติสินเชื่อจะขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละธนาคารพิจารณาประเมินกู้บ้านจากรายได้แต่ละสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน
ตัวอย่างการประมาณรายได้
การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน จะเริ่มต้นจากตัวอย่างรายรับของบุคคลที่ทำงานประจำ มีการคํานวณรายได้ซื้อบ้าน ดังนี้
ตัวอย่าง คุณ X เป็นพนักงานประจำ ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด สังกัดอยู่ในบริษัทโฆษณา เงินเดือน 40,000 บาท ค่าตำแหน่งได้เท่ากันทุกเดือน 5,000 บาท มีโอทีอัพเดทปัจจุบัน 6 เดือน ได้แก่ 6,000 บาท , 7,000 บาท , 6,000 บาท , 5,000 บาท , 6,000 บาท และ 6,000 บาท มีภาระหักเงินกู้สหกรณ์ 3,000 บาท ปีที่ผ่านมา คุณ X ได้รับโบนัส 6 เดือน จึงมีวิธีคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านของคุณ X ดังนี้
การประเมินกู้บ้านจากการประมาณรายได้/เดือน
- เงินเดือน = 40,000 บาท
- รายรับคงที่ได้เท่ากันทุกเดือน = 5,000 บาท
- รายรับไม่คงที่เฉลี่ย 6 เดือน 6,000+7,000+6,000+5,000+6,000+6,000 = 6,000 บาท/เดือน (เฉลี่ย)
- โบนัส 6 เดือน 40,000*6=240,000/12= 20,000 บาท
คิดรายได้รวมทั้งหมด เฉลี่ยน/เดือน 40,000+5,000+6,000+20,000 = 71,000 บาท
ภาระหนี้ของผู้กู้
คิดภาระ 2 ส่วน ในสลิป และ ในเครดิตบูโร
- ค่าผ่อนรถจักรยานยนต์ คิดตามเงินค่างวดแต่ละเดือน = 3,000 บาท
- บัตรเครดิตบัตรกดเงินสด คิด 10% ของวงเงินที่ใช้ นาย X ใช้ไป 50,000 บาท = 5,000 บาท
- ในสลิปเงินเดือน เงินกู้สหกรณ์ = 3,000 บาท
ภาระรวม 3,000 + 5,000 + 3,000 = 11,000 บาท
สามารถคำนวณได้ดังนี้
สูตรคำนวณ คิดภาระหนี้ 60% หมายความว่าใน 100 บาท สามารถเป็นหนี้ได้ทั้งหมด 60 บาท อีก 40 บาท หักไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน
- นำรายได้รวมทั้งหมดมาคิดภาระหนี้ที่สามารถแบกรับได้ 71,000*60% = 42,600 บาท
- นำมาหักภาระหนี้ทั้งหมด 42,600 - 11,000 = 31,600 บาท
การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านจากการรวบรวมประมาณรายได้ทั้งหมด ถ้าค่างวดผ่อนล้านละ 6,500 บาท = 31,600 / 6,500 บาท = 4.86 ล้าน
สรุป คุณ X จะสามารถกู้บ้านได้ที่ราคา 4.86 ล้านบาท
การเพิ่มวงเงิน ลดภาระหนี้ เพิ่มผู้กู้ร่วม
ภาระที่ปิดแล้วหักลบภาระหนี้ได้ทันที สินเชื่อบุคคลทุกประเภทที่ไม่มีบัตร รถ บ้าน สินเชื่อที่มีค่างวด Fix
สามารถแนบใบแจ้งหนี้ล่าสุด ควบคู่สลิปการโอนหรือใบเสร็จการชำระได้เลย
การเพิ่มคะแนนสกอริ่ง พยายามอย่าสร้างหนี้เพิ่ม บัตร สินเชื่อทุกประเภท ห้ามใช้วงเงินเกิน 75% ชำระค่างวดให้ตรงตามกำหนดชำระทุกเดือน
การคำนวณหนี้สิน
“หนี้สิน” เป็นรายจ่ายที่ผู้กู้ต้องบังคับจ่ายโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยทางธนาคารจึงพิจารณาการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน จากหนี้สินของผู้กู้ที่มีลักษณะการผ่อนชำระแต่ละเดือน ดังนี้
- หนี้บัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิต รวมกันเป็น สัดส่วน 10% โดยคิดจากยอดหนี้ล่าสุด
- หนี้ผ่อนรถยนต์ โดยคิดจากอัตราค่างวดผ่อนในแต่ละเดือน ในกรณีเหลือ 3 งวดสุดท้าย จะไม่นำมาคิด (โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละธนาคาร)
- หนี้ผ่อนบ้าน โดยคิดจากอัตราผ่อนแต่ละเดือน ในกรณีเหลือ 3 งวดสุดท้าย จะไม่นำมาคิด (โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละธนาคาร)
- ภาระหนี้ในสลิปเงินเดือน ที่ได้รับการยกเว้นไม่นำมาหักเป็นภาระหนี้สิน ( ภาษี, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประกันสังคม )
ตัวอย่างการประมาณหนี้สิน
การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน จะคิดจากจำนวนหนี้สิ้นแบบรายเดือน ดังนี้
รายจ่ายภาระหนี้ของคุณ X มีรายจ่าย/เดือน ดังนี้
- ค่าบัตรเครดิต 50,000 บาท คิดจากสัดส่วน 10% จากหนี้ยอดจ่ายล่าสุด = 50,000/10 = 5,000 บาท
- ค่าผ่อนรถ 60,000 คิดจากสัดส่วน 100% จึงเหลือผ่อนเพียง 2 งวด จึงไม่นำมาคิดรายจ่ายภาระหนี้ = 0 บาท
- ค่าผ่อนบ้าน 18,000 บาท คิดจากสัดส่วน 100%
สรุป การคำนวณรวมหนี้สิ้นทั้งหมด = 5,000+18,000 = 23,000 บาท
การคำนวณความสามารถทางการเงินในการผ่อนบ้านของผู้กู้
ธนาคารจะทำการคำนวณความสามารถในการกู้ซื้อบ้านของผู้กู้ โดยนำรายได้และภาระหนี้สินทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนี้รถยนต์ หนี้ผ่อนบ้าน และภาระอื่น ๆ มาประกอบพิจารณาตัดสินอนุมัติสินเชื่อโดยมีรายจ่ายทั้งหมดไม่เกิน 60% ของรายได้ผู้กู้ต่อเดือน
ตัวอย่างการประมาณความสามารถทางการเงิน
การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน เพื่อค้นหาความสามารถในผ่อนหนี้สินที่มียอดจ่ายไม่เกิน 60% ของรายได้ ทาง The Best ได้สรุปตารางเงินเดือนดังนี้
รายได้ | วงเงิน (ประมาณ) |
15,000 บาท | 1.2 ล้านบาท |
20,000 บาท | 1.8 ล้านบาท |
25,000 บาท | 2.3 ล้านบาท |
30,000 บาท | 2.7 ล้านบาท |
35,000 บาท | 3.2 ล้านบาท |
40,000 บาท | 4.3 ล้านบาท |
45,000 บาท | 4.8 ล้านบาท |
50,000 บาท | 5.3 ล้านบาท |
จากตารางที่กล่าวมา จะเป็นวงเงินกู้สำหรับผู้ที่ไม่มีภาระหนี้สิ้นเท่านั้น ซึ่งตัวเลขวงเงินอาจเปลี่ยนแปลงราคาได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารที่ผู้กู้ยื่นกู้สินเชื่อภายหลัง
นอกจากนี้ ยังมีตารางผ่อนตามระยะเวลาโดยสังเขป ให้ผู้กู้คํานวณความสามารถในการผ่อนบ้านแบบคร่าวได้ ดังนี้
ระยะเวลาผ่อน | กู้บ้าน 1 ล้าน (ผ่อนล้านละ) |
30 ปี | 6,500 |
25 ปี | 6,900 |
20 ปี | 7,600 |
15 ปี | 8,900 |
10 ปี | 11,500 |
5 ปี | 19,700 |
การคำนวณวงเงินกู้
การคํานวนวงเงินสินเชื่อบ้าน ทางธนาคารจะทำการอนุมัติวงเงินกู้กับผู้กู้ที่ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์แต่ละธนาคารที่ให้ โดยผู้กู้จะต้องชำระดอกเบี้ยตามจำนวนเงินกู้ตามสัญญากำหนดที่ทางธนาคารระบุไว้
ตัวอย่างการประมาณวงเงินกู้
การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน เพื่อค้นหาวงเงินกู้ที่ผู้สามารถกู้เงินได้สูงสุง ดังนี้
ตัวอย่าง คุณ X มีรายได้ 25,000 บาท มีภาระได้ 60% ของรายได้เป็น 15,000 บาท ปัจจุบันมีภาระหนี้ 3,000 บาท ทำให้มีภาระหนี้เพิ่มอีก 12,000 บาท ในระยะเวลา 25 ปี ตกผ่อนล้านละ 6,900 บาท จะมีการคำนวณความสามารถในการกู้โดย
วิธีคิด นำ ภาระหนี้เพิ่มได้อีก ÷ ค่าผ่อนล้านละ = 12,000 ÷ 6,900 = 1.73
สรุป การคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านจากการหาภาระหนี้ปัจจุบันของคุณ X จะสามารถขอสินเชื่อบ้านได้ในวงเงินไม่เกิน 1.73 ล้านบาท
สูตรคำนวณยอดผ่อน
การคํานวนยอดผ่อนสินเชื่อบ้าน The Best Property แนะนำวิธีการคำนวณเป็น 2 แบบ ได้แก่
กรณีที่ 1 ผู้ซื้อ “รู้ราคาเต็มของบ้าน” แต่ไม่ทราบจำนวนเงินที่ต้องใช้ผ่อนต่อเดือน ให้ตั้งสมการ ยอดผ่อนล้านละเป็นตัวตั้ง X และแปลงราคาบ้านเป็นตัวเลขทศนิยม
ตัวอย่าง ซื้อบ้านราคา 2,500,000 บาท ในระยะเวลาสัญญาผ่อนเป็น 30 ปี จึงตกล้านละ 6,500 บาท
วิธีคิด หาค่า ยอดผ่อนล้านละ X บาท = จำนวนเงินระยะเวลาสัญญาผ่อน * ราคาบ้าน = 6,500*2.5 ดังนั้น X = 16,250
สรุป ยอดผ่อนบ้านราคา 2,500,000 บาท ผู้กู้ต้องผ่อน 16,250 บาทต่อเดือน
กรณีที่ 2 ผู้ซื้อ “รู้จำนวนยอดผ่อนบ้าน” แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อบ้านราคาเท่าไหร่ ให้ตั้งสมการ เอายอดที่ต้องการผ่อนเป็นตัวตั้ง ÷ ยอดผ่อนล้านละ
ตัวอย่าง ผู้ซื้อต้องการผ่อน 12,000 บาทต่อเดือน ในระยะเวลาสัญญาผ่อนเป็น 30 ปี จึงตกล้านละ 6,500 บาท
วิธีคิด หาค่า ราคาบ้าน X บาท = จำนวนเงินต้องการผ่อน ÷ จำนวนเงินตามระยะเวลาสัญญาผ่อน = 12,000 ÷ 6,500 = 1.84
สรุป ผู้ซื้อสามารถกู้ซื้อบ้านได้ในราคา 1,840,000 บาท
สรุปการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้าน
ผู้ที่ทำสัญญาสินเชื่อในการผ่อนบ้าน ควรตวรจเช็คประเภทสินเชื่อและระยะเวลาในการกู้ให้ถี่ถ้วน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยแต่ละธนาคาร มีการคำนวณความสามารถในการผ่อนบ้านไม่เท่ากัน ดังนั้นผู้กู้ควรวิเคราะห์ความสามารถในการผ่อนบ้านแบบเบื้องต้น เพื่อเป็นหลักฐานข้อมูลประกอบให้กับทางธนาคารตัดสินการทำอนุมัติสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ