10 ไอเดียแต่งทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่

เปลี่ยนทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์มือสองให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานในฝัน ด้วยสไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ
ในยุคที่การทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โฮมออฟฟิศก็กลายเป็นพื้นที่สำคัญที่ช่วยเสริมทั้งประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกับ “ทาวน์โฮมมือสอง” ที่นอกจากจะราคาน่าคบ แล้วยังสามารถรีโนเวทให้น่าอยู่และน่าทำงานได้แบบไม่จำกัดสไตล์ กับ 10 ไอเดียแต่งทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
.jpg)
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ธุรกิจ SME ขายของออนไลน์ บล็อกเกอร์ สตรีมเมอร์ หรือแม้แต่เป็น Influencer การรีโนเวทตกแต่งให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศก็ยังคงเป็นที่นิยม ในเรื่องของการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทุกๆ อาชีพ ให้ตรงตามกับความต้องการ
The Best Property ขอพาคุณมาส่องไอเดียแต่ง ทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสายมินิมอล สายครีเอทีฟ หรือแม้แต่เกมเมอร์สายจริงจัง ก็สามารถจัดบ้านให้ตอบโจทย์ได้ง่ายๆ
สิ่งที่ต้องทำ ก่อนแต่งทาวน์โฮม ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ
การเปลี่ยนทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ต้องวางแผนให้รอบด้าน เพื่อให้ได้พื้นที่ทำงานที่ทั้งใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ
1. สำรวจพื้นที่ภายในบ้านให้เหมาะกับการทำงาน
เริ่มจากดูว่าพื้นที่ส่วนใดในบ้านที่เหมาะกับการทำงานมากที่สุด ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาถึงทิศทางของแสงแดด หรือทิศทางของลม ให้ตอบโจทย์ได้มากที่สุด โดยส่วนใหญ่มักเลือกใช้ชั้น 1 หรือชั้น 1 และ 2 ของทาวน์โฮม 3 ชั้น ส่วนชั้น 3 อาจกันไว้เป็นโซนพักผ่อนของครอบครัว เพื่อความเป็นส่วนตัว ไม่ให้รบกวนกัน
2. วางแผนงบประมาณให้ชัดเจน
กำหนดงบในการรีโนเวทให้เหมาะสมกับกำลังทรัพย์ของเราเอง เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ หรือค่าช่างตกแต่ง และคุณอาจจะต้องมีเงินสำรอง ในกรณีมีเหตุกาณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างการตกตแต่งรีโนเวท
3. เลือกสไตล์การตกแต่งให้สอดคล้องกับธุรกิจของคุณ
ไม่ว่าจะเป็นโฮมออฟฟิศสายครีเอทีฟ เรียบหรูแบบมืออาชีพ หรือบรรยากาศอบอุ่นสบาย ก็เลือกให้เหมาะกับแบรนด์และลักษณะงานของคุณมากที่สุด
4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งภายใน
การทำงานร่วมกับนักออกแบบ หรือบริษัทที่มีประสบการณ์ จะช่วยให้คุณได้พื้นที่ทำงานที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริง พร้อมคำแนะนำที่ตอบโจทย์
“10 ไอเดียแต่งทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่”
1. โฮมออฟฟิศสไตล์มินิมอล ทำงานสบาย ใจสงบ โฟกัสเต็มที่
ถ้าคุณเป็นสายรักความเรียบง่าย แต่ต้องการพื้นที่ทำงานที่มีประสิทธิภาพ โฮมออฟฟิศสไตล์มินิมอล คือคำตอบที่ใช่ที่สุด ด้วยการตกแต่งที่เน้นความสะอาดตา สบายใจ และเป็นระเบียบ ช่วยให้การทำงานในแต่ละวันเต็มไปด้วยสมาธิและความสงบ
สำหรับใครที่กำลังมองหาแนวทางตกแต่ง ทาวน์โฮมมือสอง ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศที่น่าทำงาน สไตล์ “มินิมอล” คือหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมที่ไม่เพียงแต่สวยสบายตาเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมบรรยากาศการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
ทำไมต้องเลือกสไตล์มินิมอล?
เพราะมินิมอลไม่ใช่แค่ความสวยงามที่ “น้อยแต่มาก” เท่านั้น แต่ยังช่วยให้จิตใจสงบ ลดสิ่งรบกวนสายตา และทำให้เราจดจ่อกับงานตรงหน้าได้มากขึ้น พื้นที่ไม่ต้องใหญ่ แต่ต้อง “เรียบง่าย มีระเบียบ และมีฟังก์ชัน” ทุกอย่างต้องมีความหมาย ไม่มีของฟุ่มเฟือยให้รกตา
โทนสีที่สร้างความผ่อนคลาย
สไตล์มินิมอลจะเน้นโทนสีอ่อนและอบอุ่น เช่น ขาว ครีม เทาอ่อน น้ำตาลไม้อ่อน ซึ่งช่วยสร้างความรู้สึกโล่ง โปร่ง และสะอาดตา ไม่ว่าจะเป็นผนัง พื้น หรือเฟอร์นิเจอร์ ก็ควรคุมโทนสีให้ไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เพื่อให้ทั้งห้องดูสบายตาและเป็นหนึ่งเดียวกัน แนะนำให้ใช้ผ้าม่านสีขาวบาง เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาเต็มที่ เพิ่มพลังงานบวกให้กับวันทำงานของคุณ

เฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย แต่ใช้งานได้ครบ
ไม้สีอ่อน เช่น เบิร์ช หรือโอ๊คอ่อน ที่มีดีไซน์เรียบ ไม่มีลวดลายฟุ่มเฟือย ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดูสงบและไม่รบกวนสายตา เหมาะกับคนที่ต้องการโฟกัสกับงานแบบผ่อนคลาย โต๊ะทำงานไม้สีอ่อน ดีไซน์เรียบ ไม่มีลวดลาย เก้าอี้ทำงานสบาย รองรับสรีระ แต่ไม่จำเป็นต้องมีสีสันฉูดฉาด ชั้นวางของติดผนัง หรือชั้นโปร่งที่ดูไม่เทอะทะ ลิ้นชักและกล่องจัดระเบียบ เพื่อซ่อนของใช้ให้เรียบร้อย

แสงธรรมชาติคือหัวใจสำคัญ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้โฮมออฟฟิศสไตล์มินิมอลประสบความสำเร็จ คือ การจัดแสงที่ดี โดยเฉพาะแสงธรรมชาติที่ช่วยให้ตื่นตัวและทำงานได้มีประสิทธิภาพ แนะนำให้ตั้งโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง และเสริมด้วยโคมไฟตั้งโต๊ะดีไซน์เรียบที่ให้แสงอบอุ่นในช่วงกลางคืน
ตกแต่งด้วยของน้อยชิ้น แต่มีความหมาย
ของตกแต่งในโฮมออฟฟิศไม่จำเป็นต้องเยอะ แค่มี “ต้นไม้กระถางเล็ก” เช่น ต้นไทรใบสัก ต้นยางอินเดีย หรือกระบองเพชรบนโต๊ะทำงาน, โปสเตอร์ขาวดำกรอบไม้เรียบ หรือแจกันเซรามิกทรงเรียบ ก็เพียงพอแล้ว
จุดเด่นขอสไตล์สไตล์มินิมอล
- มินิมอล = จัดเก็บง่าย พื้นที่ทำงานดูเป็นระเบียบ ทำความสะอาดง่าย
- แสงธรรมชาติสำคัญมาก ลองเลือกตำแหน่งโต๊ะทำงานให้อยู่ใกล้หน้าต่าง เพื่อรับแสงธรรมชาติ เสริมพลังบวกระหว่างวัน
- จัดเก็บแบบซ่อนสายตา เช่น ลิ้นชักบิวท์อิน ตู้เก็บของสีเดียวกับผนัง เพื่อให้พื้นที่ดูสะอาดตาตลอดเวลา
- เพิ่มต้นไม้ใบเขียวเล็กๆ อย่างต้นลิ้นมังกร หรือต้นยางอินเดีย ช่วยเสริมบรรยากาศผ่อนคลาย และช่วยกรองอากาศในตัว

โฮมออฟฟิศสไตล์มินิมอล เหมาะกับใคร?
เจ้าของธุรกิจที่ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่เรียบง่าย สบายตา และเป็นระเบียบ ฟรีแลนซ์สายเขียน โปรแกรมเมอร์ นักวางแผน หรือใครที่ทำงานกับตัวเลขบ่อยๆ เพราะบรรยากาศแบบมินิมอลจะช่วยลดสิ่งรบกวน และทำให้จิตใจสงบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- คนที่ทำงานคนเดียว ต้องการพื้นที่สงบ
- เจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ที่ต้องการภาพลักษณ์แบบมืออาชีพ
- ฟรีแลนซ์สายกราฟิก/นักเขียน ที่ต้องการพื้นที่สร้างสรรค์
- คนที่ชอบความเรียบ สะอาด และไม่วุ่นวาย
2. โฮมออฟฟิศสำหรับเกมเมอร์ ทำงานก็ได้ สตรีมก็ปัง
ในยุคที่การทำงานที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติ หลายคนเริ่มมองหาวิธีสร้างโฮมออฟฟิศที่ไม่เพียงแต่ใช้ทำงานเท่านั้น แต่ยังสามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในช่วงเวลาพักผ่อนได้ด้วย สำหรับ "เกมเมอร์" หรือสายสตรีมเมอร์ นี่คือโอกาสทองที่จะเนรมิตพื้นที่ในทาวน์โฮมของคุณให้กลายเป็น “Home Office + Game Station” ที่ใช้งานได้จริง และดูดีอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์ทั้ง Work และ Play ในทาวน์โฮมของคุณ
เลือกทาวน์โฮมที่ใช่ ก่อนจะเริ่มแต่งให้เป็นโฮมออฟฟิศเกมเมอร์
ก่อนการตกแต่ง พื้นที่คือสิ่งสำคัญ ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์ที่มี 2-3 ชั้น จะสามารถแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้ดี เช่น ชั้นล่างสำหรับมุมรับแขก ชั้น 2 เป็นโฮมออฟฟิศ+เกมรูม และชั้นบนสุดสำหรับพักผ่อน หรือในบางกรณีอาจเลือกห้องที่แสงรบกวนน้อย มีผนังเก็บเสียงดี เพื่อให้เหมาะกับการไลฟ์สตรีมมิ่ง กับ 10 ไอเดียแต่งทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
องค์ประกอบสำคัญของ “โฮมออฟฟิศเกมเมอร์”
1. มุมทำงาน & เล่นเกมในจุดเดียวกัน
วางโต๊ะทำงานแบบ Corner Desk หรือโต๊ะยาวที่สามารถวาง 1-2 จอมอนิเตอร์ได้สบาย ๆ ควรมีพื้นที่ให้พอสำหรับทั้งคอมพิวเตอร์สำหรับทำงาน และเครื่องเกมคอนโซลหรือ PC Gaming แบบจัดเต็ม
ควรวางตำแหน่งโต๊ะทำงานให้ห่างจากจุดที่มีเสียงรบกวน พร้อมมีฉากหลังที่เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็นมุมตกแต่งด้วยโปสเตอร์เกม LED Wall หรือจัดแสงให้ดูมีมิติ เหมาะทั้งกับ Discord และไลฟ์สตรีม
2. ระบบแสง & บรรยากาศคือหัวใจ
จุดเด่นของโฮมออฟฟิศสายเกมเมอร์คือ ไฟ LED Strip ปรับสีได้ รอบขอบโต๊ะหรือหลังจอ ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามอารมณ์ และสร้างบรรยากาศสนุก ๆ ช่วยปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ เหมาะกับการทำคอนเทนต์ เล่นเกม หรือแม้แต่การทำงานออกแบบกราฟิก ช่วยสร้างอารมณ์ให้เหมาะกับการสตรีมและเกมมิ่ง เพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพในไลฟ์ อีกทั้งยังเสริมบรรยากาศขณะทำงานด้วยเช่นกัน
เลือกโทนไฟที่ช่วยปรับอารมณ์ เช่น สีฟ้าสำหรับความสงบ, สีม่วงสำหรับความลึกลับ หรือสีแดง-ส้มเมื่อเล่นเกมแนวแอ็กชัน
3. เก้าอี้เกมมิ่งที่รองรับสรีระการนั่งนาน
นอกจากความเท่แล้ว เก้าอี้เกมมิ่งยังต้องมีฟังก์ชันรองรับหลัง คอ และแขน ซึ่งจำเป็นมากในการใช้งานระยะยาว เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งตอนทำงานและเล่นเกม
4. เสียงและการเก็บเสียง
การสตรีมเกมหรือพูดคุยผ่าน ดิสคอร์ด (Discord) บ่อย ๆ จำเป็นต้องจัดการเสียงให้ดี อาจติด แผ่นซับเสียงแบบ Acoustic Foam กับผนัง หรือเลือกใช้ ไมโครโฟนแบบ Condenser ที่รับเสียงได้คมชัด และไม่รับเสียงรบกวนรอบข้าง
สไตล์ที่แนะนำ
ถ้าอยากให้โฮมออฟฟิศเกมเมอร์ดูเท่และมีเอกลักษณ์ ลองเลือกตกแต่งในแนว
Cyberpunk / RGB Style – ใช้ไฟสีเข้มตัดกัน เช่น ม่วง-น้ำเงิน-แดง
มินิมอล-เท่ห์ – ใช้สีดำ ขาว เทา ตัดกับแสงไฟ LED เพื่อให้ดูเรียบแต่มีมิติ
Industrial Loft – โชว์งานเหล็ก ท่อ และผนังปูนเปลือย ให้ความรู้สึกดิบแต่มีเสน่ห์
โฮมออฟฟิศสำหรับเกมเมอร์ เหมาะกับใคร?
เกมเมอร์สายสตรีม คอนเทนต์ครีเอเตอร์ นักออกแบบเกม หรือแม้แต่ฟรีแลนซ์ที่อยากเติมพลังบวกให้กับการทำงานผ่านบรรยากาศสุดเท่ของโลกเกม
3. โฮมออฟฟิศสำหรับครีเอทีฟ เติมไฟไอเดียให้พุ่งกระฉูดได้ทุกวัน
สำหรับสายงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ การมีพื้นที่ทำงานที่กระตุ้นไอเดีย ถือเป็น “หัวใจสำคัญ” ของการสร้างผลงานที่โดดเด่น และ โฮมออฟฟิศสำหรับครีเอทีฟ ก็คือคำตอบที่ช่วยเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสตูดิโอส่วนตัวที่คุณหลงรัก

ในยุคที่การทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศอีกต่อไป "ครีเอทีฟ" หรือผู้ที่ทำงานสายสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ กราฟิกดีไซเนอร์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ นักวาดภาพ นักการตลาด หรือแม้แต่มือเขียนบท ต่างต้องการพื้นที่ที่มากกว่าความเป็น “โต๊ะทำงาน” พื้นที่ที่จะกระตุ้นไอเดีย สร้างแรงบันดาลใจ และช่วยให้สามารถโฟกัสงานได้แบบไม่จำกัดเวลา
และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม ทาวน์โฮมมือสอง จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้าง “โฮมออฟฟิศสไตล์ครีเอทีฟ” ที่คุณสามารถออกแบบได้ตามใจในงบประมาณที่ควบคุมได้ กับ 10 ไอเดียแต่งทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
ครีเอทีฟต้องการอะไรจากโฮมออฟฟิศ?
การจัดพื้นที่ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนทำงานสายครีเอทีฟ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดวางพื้นที่ให้ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ในเรื่องของ "แรงบันดาลใจ" ซึ่งองค์ประกอบหลัก ๆ ที่ควรมี ได้แก่:
- แสงธรรมชาติ กระตุ้นสมองและเพิ่มพลังบวกในการคิดงาน
- พื้นที่โล่ง ไม่อึดอัด ช่วยให้ไอเดียลื่นไหล
- โซนปลดปล่อยความคิด เช่น กระดานไวท์บอร์ด ผนังเขียนโน้ต หรือ moodboard
- พื้นที่สำหรับอุปกรณ์สร้างสรรค์ เช่น กล้อง วาดภาพ คอมกราฟิก หรืองานฝีมือ
ไอเดียตกแต่งโฮมออฟฟิศสำหรับครีเอทีฟ
The Best Property เรามีทาวน์โฮมมือสองให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบ 2-3 ชั้น ทำให้คุณสามารถแบ่งพื้นที่การทำงานได้อย่างลงตัว เช่น
- ชั้นล่าง มุมรับแขก & พื้นที่พักผ่อน
- ชั้น 2 ห้องทำงานสร้างสรรค์ (Creative Studio)
- ชั้น 3 ห้องนอน หรือพักผ่อนส่วนตัว
ใช้สีสันกระตุ้นจินตนาการ
อย่ากลัวที่จะใช้สี สำหรับโฮมออฟฟิศของครีเอทีฟควรมีสีที่ "กระตุกสมอง" เช่น สีเหลือง, สีส้ม, สีม่วง และสีเขียวมิ้นต์ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศสนุก กระฉับกระเฉง และไม่จำเจ เหมาะกับการทำงานที่ต้องคิดนอกกรอบ
โทนสีเหลือง
สีเหลืองเป็นสีของแสงอาทิตย์และแสงสว่าง ช่วยสร้างความอบอุ่นและกระตุ้นการทำงานของจิตใจ สีเหลืองยังเป็นสีของความสุข ความสนุกสนาน ความสุข พลังงาน ความมองโลกในแง่ดี ตลอดจนสติปัญญา อุดมคติ และจินตนาการอีกด้วย

เนื่องจากสีเหลืองเป็นสีโทนอุ่นที่สื่อถึงจินตนาการ คุณจึงสามารถใช้สีนี้ได้ หากต้องการให้พนักงานของคุณมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น แต่ควรระวังหากคุณต้องการสร้างความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย สีเหลืองเป็นสีแห่งความร่าเริงและความเป็นธรรมชาติ ไม่ได้สื่อถึงการปกป้องหรือความปลอดภัย
สีเหลืองเหมาะที่สุดสำหรับ ห้องนักออกแบบกราฟิกหรือแฟชั่น สตูดิโอเขียนหนังสือ และศูนย์ศิลปะภาพ
โทนสีส้ม
สีส้มสื่อถึงความกระตือรือร้น กำลังใจ ความแข็งแกร่ง ความอดทน ความสมดุล และความตื่นเต้น สีส้มเป็นสีที่ร้อนแรงแต่ไม่ก้าวร้าว และเป็นที่ยอมรับในหมู่วัยรุ่น นอกจากนี้ สีส้มยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราหลายประการ เช่น เพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังสมอง กระตุ้นการทำงานของสมอง และเพิ่มพลัง

สีส้มเป็นสีแห่งใบไม้ร่วงซึ่งสื่อถึงการเปลี่ยนแปลง หากคุณต้องการให้พนักงานตัดสินใจได้ดีขึ้น สร้างความมั่นใจในตนเอง และเพิ่มความเข้าใจ ให้คุณทาผนังห้องด้วยสีส้ม หากพนักงานต้องสื่อสารกันบ่อยๆ อย่าลืมทาผนังห้องด้วยสีส้ม สีนี้จะช่วยให้พนักงานเข้าสังคมได้มากขึ้น สร้างแรงบันดาลใจมากขึ้น
สีส้มเหมาะที่สุดสำหรับ คอลเซ็นเตอร์ บริษัทที่ปรึกษา บริษัทด้านไอที และศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว
โทนสีม่วง
สีม่วงเป็นตัวแทนของความหรูหรา อำนาจ ความทะเยอทะยาน ภูมิปัญญา ศักดิ์ศรี ความเป็นอิสระ ความมีชีวิตชีวา จิตวิญญาณ รวมถึงความลึกลับและเวทมนตร์ สีม่วงมีพลังในการปลุกเร้าจิตใจและประสาทสัมผัสให้สงบ
สีม่วงเป็นที่รู้กันว่าช่วยเพิ่มความเอาใจใส่และความอ่อนไหว นอกจากนี้ยังส่งเสริมจินตนาการและทำให้ผู้คนมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ดังนั้นหากคุณต้องการให้พนักงานของคุณคิดไอเดียใหม่ๆ ให้ทาสีผนังเป็นสีลาเวนเดอร์
สีม่วงเหมาะที่สุดสำหรับ สตูดิโอศิลปะและคลินิกความงาม
โทนสีเขียว
สีเขียวเป็นสีแห่งธรรมชาติและชีวิตใหม่ มีความเกี่ยวข้องกับความสามัคคี การเติบโต ความหวัง ความอุดมสมบูรณ์ ความไว้วางใจ ภูมิปัญญา ความศรัทธา และการเริ่มต้นใหม่ เนื่องจากสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางที่อิสระ จึงเป็นสีแห่งความปลอดภัย
สีเขียวยังช่วยชะลอการเผาผลาญของมนุษย์ และเช่นเดียวกับสีน้ำเงิน สีเขียวยังช่วยให้รู้สึกสงบ คุณอาจนำสีเขียวมาใช้ในสถานที่ทำงานหากพนักงานของคุณมีงานที่เครียดหรือมีอาการซึมเศร้าจากการทำงานสีเขียวช่วยบรรเทาความเครียด จึงทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจมากขึ้นในขณะทำงาน
สีเขียวเหมาะที่สุดสำหรับ คลินิกทันตกรรม คลินิกให้คำปรึกษาและจิตเวช โรงเรียนอนุบาล และศูนย์ศิลปะบำบัด
เพิ่มความเป็นตัวตนด้วย Art & Decor
- ติดรูปภาพ แผ่นป้ายคำคม หรือภาพสเก็ตซ์
- จัดชั้นหนังสือที่รวมหนังสือและแมกกาซีนที่คุณชอบ
- ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นต้องเข้าชุด แต่รวมแล้วดู “เท่ มีคาแรกเตอร์”

โฮมออฟฟิศสำหรับครีเอทีฟ เหมาะกับใคร?
นักสร้างสรรค์ทุกสาย นักวาดภาพ นักเขียน คอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือฟรีแลนซ์ที่ต้องการสภาพแวดล้อมที่จุดไฟในตัวคุณได้ทุกเช้า
4. โฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟต์ ดิบ เท่ มีสไตล์
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อกับบรรยากาศออฟฟิศเรียบ ๆ และกำลังมองหาพื้นที่ทำงานที่แสดงออกถึงตัวตนอย่างชัดเจน “โฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟต์” (Loft Home Office) คือคำตอบที่ใช่ที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความ ดิบ เท่ เนี้ยบ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟต์คือตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุด ด้วยการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากโรงงานเก่า โกดัง หรือสตูดิโอในเมืองใหญ่ โดดเด่นด้วยผนังปูนเปลือย อิฐโชว์แนว และโครงสร้างเหล็กที่ให้ความรู้สึก "อินดัสเทรียล" แบบดิบๆ แต่ดูดีอย่างลงตัว
และหากคุณมี ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์มือสอง อยู่ในใจ การรีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟต์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะสามารถตอบโจทย์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตได้ในที่เดียว กับ 10 ไอเดียแต่งทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
จุดเด่นของ “สไตล์ลอฟต์” ที่เหมาะกับโฮมออฟฟิศ
สไตล์ลอฟต์ได้รับอิทธิพลมาจากการรีโนเวทโกดัง โรงงานเก่า หรืออาคารอุตสาหกรรมให้กลายเป็นพื้นที่ใช้งานใหม่ จึงมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัวที่ชัดเจน และเหมาะมากกับคนที่ต้องการ “ความไม่เหมือนใคร” เช่น
- เพดานสูงโปร่ง ให้ความรู้สึกเปิดโล่ง ไม่อึดอัด
- โครงสร้างเปลือย เช่น ปูนเปลือย ท่อเหล็ก หรือผนังอิฐโชว์แนว
- โทนสีเข้ม-กลาง เช่น สีเทา สีดำ สีน้ำตาลแดง
- แสงธรรมชาติ+แสงไฟอุตสาหกรรม เพื่อบาลานซ์บรรยากาศให้ไม่อึมครึมเกินไป
ไอเดียจัดโฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟต์ในทาวน์โฮม
หากคุณซื้อทาวน์โฮม 2-3 ชั้นจาก The Best Property คุณสามารถจัดสรรพื้นที่ได้ดังนี้:
- ชั้น 1 ปรับเป็น Co-working space หรือ Showroom ขนาดย่อม
- ชั้น 2 แปลงเป็นสตูดิโอส่วนตัว พื้นที่ทำงานจริง
- ชั้น 3 พื้นที่พักผ่อน หรือห้องนอนแยกสำหรับ Work-Life Balance
แนวทางการตกแต่งโฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟต์

1. ผนังปูนเปลือย หรืออิฐโชว์แนว
ใช้เทคนิคการทำผนังปูนขัดมัน หรือใช้วัสดุตกแต่งผนังลายอิฐเพื่อให้ได้กลิ่นอายลอฟต์ โดยสามารถเลือกแบบที่ดูเรียบหรือเท่ขึ้นอยู่กับสไตล์ส่วนตัว
2. เฟอร์นิเจอร์เหล็กผสมไม้
เลือกใช้โต๊ะทำงานที่มีโครงเหล็กและท็อปไม้ เก้าอี้หนังวินเทจ ชั้นวางของแบบเปิดโล่ง หรือรถเข็นเหล็กแทนตู้เก็บเอกสาร เพื่อเสริมความดิบและฟังก์ชัน
3. แสงไฟแบบ Industrial
ติดไฟแขวนเพดาน (Pendant Light) หรือไฟราง (Track Light) เพื่อสร้างมู้ดเหมือนโกดังหรือคาเฟ่ พร้อมเพิ่มโคมไฟตั้งพื้นสำหรับใช้งานเฉพาะจุด
4. พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ
ทำมุมอ่านหนังสือพร้อมชั้นหนังสือเหล็กติดผนัง หรือใช้กระดานดำ Chalkboard สำหรับจดไอเดียต่าง ๆ ให้เหมือนสตูดิโอศิลปิน
โฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟต์ เหมาะกับใคร?
คนทำงานที่หลงใหลในสไตล์ดิบเท่ มีความเป็นศิลป์ในตัว ต้องการบรรยากาศที่ช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจ พร้อมพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนแบบ “ไม่ต้องปรุงแต่งมาก ก็มีเสน่ห์”
5. โฮมออฟฟิศสไตล์ลักซูรี (Luxury) ทำงานอย่างมีระดับในทุกวัน
ในยุคที่บ้านกลายมาเป็นที่ทำงานอีกแห่งของหลายคน การสร้างสรรค์โฮมออฟฟิศในสไตล์ลักซูรี (Luxury) ไม่ได้เป็นเพียงการตกแต่งเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนภาพลักษณ์ ความมั่นใจ และความสำเร็จของผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน โฮมออฟฟิศสไตล์ลักซูรีจึงเหมาะกับเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร หรือใครก็ตามที่ต้องการ “ทำงานอย่างมีระดับ” และต้องการพื้นที่ทำงานที่มอบทั้งแรงบันดาลใจและความภูมิใจในทุกวัน

แม้คำว่า "Luxury" อาจดูเป็นอะไรที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ความลักซูรีที่แท้จริง คือการรู้จักเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ดีไซน์ที่เรียบโก้ และองค์ประกอบที่ลงตัว ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศสง่างามโดยไม่ต้องแต่งเติมเยอะ กับ 10 ไอเดียแต่งทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
โทนสีที่ใช่ เติมเสน่ห์ให้ห้องทำงาน
สไตล์ลักซูรีนิยมใช้สีโทนเข้มอย่าง เทาเข้ม ดำ น้ำตาลทอง หรือเบจอ่อน ตัดกับวัสดุที่มีผิวสัมผัสพิเศษ เช่น หินอ่อน กระจกเงา หรือโลหะสีทอง/โรสโกลด์ ซึ่งทำให้พื้นที่ดูมีมิติและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

อย่ามองข้ามเรื่อง "แสงไฟ" เพราะแสงที่นุ่มนวลและอบอุ่นจากโคมไฟตั้งพื้นหรือไฟซ่อน (Indirect Lighting) ช่วยยกระดับความหรูให้ห้องทำงานได้อย่างน่าทึ่ง ลองเลือกโคมไฟดีไซน์โมเดิร์นหรูหรา หรือแชนเดอเลียร์ไซส์เล็กที่มีลูกเล่นด้านวัสดุ ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศห้องธรรมดาให้ดูแพงขึ้นทันตา
การวางผังโฮมออฟฟิศสไตล์ลักซูรีในทาวน์โฮม
โฮมออฟฟิศสไตล์ลักซูรี (Luxury Style) คือการออกแบบพื้นที่ทำงานภายในบ้านให้เปี่ยมด้วยความหรูหราเหนือระดับ ผสมผสานระหว่างดีไซน์คลาสสิกและวัสดุคุณภาพสูง เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความมั่นใจ และสะท้อนรสนิยมที่แตกต่างของเจ้าของบ้าน
ชั้น 1 โซนรับรองลูกค้าและโชว์ความเป็นมืออาชีพ
- วางโซฟาหนังแท้ หรือเบาะกำมะหยี่โทนเข้ม เพิ่มความโดดเด่นด้วยโต๊ะกลางหินอ่อน
- ผนังตกแต่งด้วยลายไม้หรือกระจกเงาทอง เพิ่มลูกเล่นให้ห้องดูกว้าง
- แชนเดอเลียร์หรูช่วยยกระดับบรรยากาศ และสร้างความประทับใจแรกพบ
ชั้น 2 โซนทำงานหลักที่หรูหราแต่ใช้งานได้จริง
- จัดวางโต๊ะทำงานไม้แท้ดีไซน์โมเดิร์น พร้อมเก้าอี้หนังคุณภาพสูง
- วางตู้โชว์ผลงานหรือรางวัล เพื่อสื่อถึงความสำเร็จในสายงาน
- ใช้โทนสีทอง เทาเข้ม น้ำตาลช็อกโกแลต หรือดำด้าน สะท้อนความมั่นคงและทรงพลัง
- ติดตั้งระบบไฟแบบ Smart Lighting ปรับได้ตามอารมณ์การทำงาน
ชั้น 3 มุมพักผ่อนส่วนตัวแบบโรงแรม 5 ดาว
- วางชุด Daybed หรือโซฟานุ่มพิเศษ สำหรับพักสมองระหว่างวัน
- เพิ่มมินิบาร์เล็ก ๆ มุมกาแฟ พร้อมชั้นหนังสือหรู
- เปิดมุมชมวิว หรือทำเป็นห้องสมาธิเล็ก ๆ ให้เติมเต็มวันทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ

โฮมออฟฟิศสไตล์ลักซูรี เหมาะกับใคร?
- ผู้บริหาร นักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการ
โฮมออฟฟิศสไตล์ลักซูรีช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พร้อมใช้เป็นพื้นที่รับแขก หรือต้อนรับลูกค้าสำคัญได้อย่างสมศักดิ์ศรี - คนที่ต้องการสร้าง Personal Branding ที่ชัดเจน
ถ้าคุณทำงานด้านการตลาด การเงิน หรืออาชีพที่ต้องสื่อสารถึงความน่าเชื่อถือและรสนิยม การมีออฟฟิศที่สะท้อนความเป็นมืออาชีพย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวม - สาย Content Creator, Luxury Influencer หรือที่ปรึกษาส่วนตัวระดับไฮเอนด์
โฮมออฟฟิศลักซูรีกลายเป็นแบ็กดรอปสุดปัง ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าภาพถ่ายหรือวิดีโอทุกชิ้นในคอนเทนต์ของคุณ - ผู้ที่ซื้อทาวน์โฮมมือสองแล้วต้องการรีโนเวทให้ดูหรูหราเหมือนบ้านใหม่
การแต่งสไตล์ลักซูรีช่วยเปลี่ยนภาพจำของบ้านมือสอง ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษที่ดูพรีเมียม มีเอกลักษณ์ และมูลค่าเพิ่ม
6. โฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู ทันสมัย
ยุคใหม่ของการทำงาน ไม่จำเป็นต้องอยู่ในออฟฟิศสูงระฟ้ากลางเมืองอีกต่อไป เพราะบ้านของคุณก็สามารถกลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังมองหาโฮมออฟฟิศที่ดูดี มีฟังก์ชัน และเสริมภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจ “โฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์น” (Modern Style) คือคำตอบที่ชัดเจน ใน Concept ทำงานอย่างมีคลาส ในพื้นที่ที่ออกแบบเพื่อ “ความสำเร็จ” ด้วยดีไซน์ที่เน้นเส้นสายเรียบคม การเลือกใช้วัสดุคุณภาพ และการจัดวางพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ สไตล์นี้ช่วยสะท้อนตัวตนของคนทำงานมืออาชีพได้อย่างชัดเจน
หากคุณเลือกซื้อ ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์มือสองจาก The Best Property คุณสามารถต่อยอดความคุ้มค่าได้ทันที ด้วยการรีโนเวทพื้นที่ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศสมัยใหม่ ที่ทั้งสวย ใช้งานได้จริง และส่งเสริม productivity ให้คุณทำงานได้อย่างเต็มที่ในทุกวัน กับ 10 ไอเดียแต่งทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศ ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
เสน่ห์ของ “สไตล์โมเดิร์น” ที่มากกว่าความทันสมัย
ความ “โมเดิร์น” ไม่ใช่แค่ความใหม่หรือเทคโนโลยี แต่คือการออกแบบที่คำนึงถึงความเรียบง่าย ฟังก์ชัน และเส้นสายที่ชัดเจน โฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์นจะช่วยให้บ้านของคุณดูเป็นมืออาชีพ ทันสมัย และตอบโจทย์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต

ไอเดียการจัดโฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์นในทาวน์โฮม
1. ใช้โทนสีเรียบ เท่ และดูแพง
เลือกใช้โทนสีอย่าง ขาว เทา ดำ น้ำตาลเข้ม หรือสีเอิร์ธโทนตัดกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีเส้นสายเรขาคณิต เน้นการออกแบบที่ดู “สะอาด” และ “ชัดเจน” จะช่วยสร้างความรู้สึกโปร่งสบาย เหมาะกับการทำงาน
2. เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบ แต่แฝงเทคโนโลยี
โต๊ะทำงานควรเลือกแบบที่มีพื้นที่ใช้งานกว้าง พร้อมช่องเก็บสายไฟในตัว เก้าอี้ควรเป็นแบบ ergonomic เพื่อรองรับการทำงานนาน ๆ และหากเพิ่ม smart device เช่น ลำโพงอัจฉริยะ หรือหลอดไฟควบคุมผ่านแอปฯ ก็จะยิ่งยกระดับบรรยากาศให้ดูไฮเทคยิ่งขึ้น
3. แบ่งสัดส่วนพื้นที่ด้วยการออกแบบ
ไม่จำเป็นต้องกั้นห้องด้วยผนังเสมอไป การใช้ฉากกระจกใส ฉากไม้ฉลุ หรือชั้นหนังสือแนวยาว มาเป็นตัวแบ่งโซน สามารถช่วยแยกพื้นที่ทำงานกับพื้นที่พักผ่อนได้อย่างมีสไตล์ โดยไม่ทำให้รู้สึกแคบ
4. แสงธรรมชาติ + ไฟส่องเฉพาะจุด
โฮมออฟฟิศโมเดิร์นควรเปิดรับแสงธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เพื่อให้บรรยากาศสดชื่นและประหยัดพลังงาน ร่วมกับการใช้ ไฟดาวน์ไลท์ หรือ ไฟโต๊ะทำงานแบบส่องเฉพาะจุด เพื่อเสริมความมีมิติของห้อง และไม่ทำให้แสงฟุ้งจนเสียสมาธิ
พื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์คุณ
คุณสามารถเลือกซื้อทาวน์โฮมมือสองขนาด 2-3 ชั้น ได้จาก The Best Property ที่มีให้คุณเลือกมากมาย ทำให้คุณสามารถออกแบบให้โฮมออฟฟิศของคุณดูโมเดิร์นได้โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาล เช่น
- ชั้นล่าง ใช้เป็นโซนรับแขกหรือที่ประชุมเล็ก ๆ
- ชั้น 2 เป็นโซนทำงานหลัก ตกแต่งด้วยโต๊ะทำงานยาวติดผนัง + ชั้นวางของ
- ชั้นบนสุด พักผ่อน หรือดัดแปลงเป็น Creative space หรือ Studio

โฮมออฟฟิศสไตล์โมเดิร์น เหมาะกับใคร?
เหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องการภาพลักษณ์แบบมืออาชีพ ต้องการพื้นที่ทำงานที่เสริมความมั่นใจ เน้นการใช้เทคโนโลยีควบคู่กับการออกแบบที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร ฟรีแลนซ์สายงานโปรเฟสชันนอล เช่น ที่ปรึกษา นักลงทุน นักกฎหมาย เป็นต้น
7. โฮมออฟฟิศสไตล์ญี่ปุ่น บรรยากาศเรียบสงบ อบอุ่น
หากคุณกำลังมองหาไอเดียโฮมออฟฟิศที่ทั้งสวย เรียบง่าย และส่งเสริมสมาธิในการทำงาน “สไตล์ญี่ปุ่น (Japanese Style)” คือหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมที่หลายคนหลงรัก เพราะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องของความ มินิมอล ความเป็นธรรมชาติ และความสงบเงียบ หรือ สไตล์ MUJI นั่นเอง
เรียบง่ายแต่ลงตัว กับพื้นที่ทำงานที่คุณจะหลงรัก
ในยุคที่การทำงานที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติ การมีพื้นที่ทำงานที่น่าอยู่ น่าทำงาน และช่วยเสริมสมาธิกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนให้ความสำคัญ หนึ่งในสไตล์ที่กำลังมาแรงสำหรับการแต่งโฮมออฟฟิศก็คือ สไตล์ MUJI HOUSE หรือที่หลายคนเรียกว่า "สไตล์มูจิ" ซึ่งผสมผสานความเรียบง่าย เข้ากับฟังก์ชันการใช้งานอย่างลงตัว ไม่ต้องมีพื้นที่มาก ก็สามารถรีโนเวททาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์มือสองให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศในฝันได้ ถ้าออกแบบอย่างมีแนวคิด และเลือกใช้วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ หรือโทนสีให้เหมาะสม
MUJI STYLE คืออะไร?
ไม่ใช่แค่ดีไซน์ แต่คือ “แนวคิดการใช้ชีวิต”
สไตล์ MUJI มาจากแบรนด์ญี่ปุ่นชื่อดังที่ยึดหลัก “Less is More” ทุกอย่างในบ้านจึงถูกออกแบบมาให้เรียบง่าย ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา หรือดีไซน์ที่หวือหวา แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ใช้งานได้จริง และสื่อถึงความสงบ
จุดเด่นของการตกแต่งโฮมออฟฟิศสไตล์ MUJI
1. บรรยากาศโปร่ง โล่ง สบายตา
หากคุณต้องใช้เวลา 6-8 ชั่วโมงต่อวันอยู่ในโฮมออฟฟิศ การมีพื้นที่ที่ให้ความรู้สึก “โล่ง ไม่อึดอัด” จะช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้นอย่างชัดเจน การตกแต่งสไตล์มูจิจะเน้น ช่องแสงธรรมชาติ การใช้ม่านผ้าบางสีขาว และการจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบเว้นระยะห่าง ทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด
2. โทนสีที่ช่วยให้ใจนิ่ง
สีขาว ครีม เทาอ่อน และน้ำตาลไม้ธรรมชาติ เป็นโทนสีหลักที่ MUJI นิยมใช้ สีเหล่านี้ช่วยให้รู้สึกสงบ ลดความว้าวุ่นในขณะทำงาน และยังเข้ากับบ้านหรือทาวน์โฮมขนาดเล็กได้ดี
3. เฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริง
แทนที่จะเลือกโต๊ะทำงานที่ดูเท่แต่ใช้งานไม่ถนัด MUJI จะเน้น เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ดีไซน์มินิมอลที่เน้นฟังก์ชัน เช่น โต๊ะทำงานไม้เรียบ ๆ เก้าอี้ทำงานที่รองรับสรีระ ชั้นวางของโปร่งโล่ง และตู้เก็บของที่สามารถจัดระเบียบได้ดี สามารถ “ซ่อนความรก” ได้ เช่น ลิ้นชัก กล่องจัดเก็บ หรือโครงชั้นแบบมีบานปิด
4. รายละเอียดเล็ก ๆ ที่ใส่ใจ
การตกแต่งสไตล์มูจิให้ความสำคัญกับ “ความรู้สึก” เช่น พื้นผิวไม้จริงที่ให้อารมณ์อบอุ่น กลิ่นของไม้หรืออโรม่าจาง ๆ จากเครื่องหอม และการตกแต่งด้วยของน้อยชิ้นแต่มีความหมาย เช่น ต้นไม้ฟอกอากาศ โปสเตอร์ขาวดำ หรือโคมไฟแบบญี่ปุ่น

เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ควรมีในโฮมออฟฟิศ MUJI
- โต๊ะทำงานไม้เรียบ ๆ ไม่มีลวดลาย
- เก้าอี้เบาะผ้าหรือหนังสังเคราะห์โทนสีอ่อน
- ชั้นวางของไม้เปลือยหรือเหล็กพ่นสีขาว
- กล่องเก็บของแบบมีฝา ปิดบังความรก
- ต้นไม้กระถางเล็ก เช่น ต้นยางอินเดีย ต้นไทรใบสัก
- พรมผืนบาง สำหรับเติมกลิ่นอายญี่ปุ่น
โฮมออฟฟิศสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะกับใคร?
โฮมออฟฟิศสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะกับคนที่ต้องการบรรยากาศเงียบสงบ ทำงานได้แบบมีสมาธิสูง โดยเฉพาะสายงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานเขียน หรืองานออกแบบ ที่ต้องการความนิ่งและเรียบง่าย
8. โฮมออฟฟิศสไตล์วินเทจ เสน่ห์แห่งวันวาน
ในยุคที่ทุกอย่างหมุนไปอย่างรวดเร็ว การได้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่ชวนให้นึกถึงความสงบ เรียบง่าย และเต็มไปด้วยความทรงจำ คือสิ่งที่หลายคนโหยหา “โฮมออฟฟิศสไตล์วินเทจ” จึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับใครที่อยากมีพื้นที่ทำงานที่ไม่เพียงแค่ใช้ได้จริง แต่ยังอบอุ่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
หากคุณเลือกซื้อ ทาวน์โฮมมือสองจาก The Best Property เรามีทาวน์โฮมและทาวน์เฮ้าส์ ให้คุณเลือกมากมาย ทั้งราคาและทำเล ที่มีให้คุณเลือกจนกว่าจะพอใจ บ้านแห่งความสุขที่ทำให้คุณ สามารถรีโนเวทพื้นที่ภายในให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศสุดคลาสสิก ที่ผสมผสานความสงบแบบย้อนยุคเข้ากับฟังก์ชันการทำงานยุคใหม่ได้อย่างกลมกลืน
สไตล์วินเทจคืออะไร?
วินเทจ ไม่ได้หมายถึงของเก่าเสมอไป แต่หมายถึงการเลือกใช้วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และโทนสีที่สะท้อนกลิ่นอายของอดีต เช่น ยุค 60s, 70s หรือ 80s โดยเน้นความ “ละมุน” และ “มีเรื่องราว” ในทุกมุมมอง การตกแต่งสไตล์วินเทจจึงเหมาะมากกับการสร้างบรรยากาศทำงานที่ผ่อนคลาย และมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร

ไอเดียการตกแต่งโฮมออฟฟิศสไตล์วินเทจในทาวน์โฮม
1. โทนสีอบอุ่นที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง
เลือกใช้สีพาสเทล สีเบจ น้ำตาลอ่อน เขียวหม่น หรือฟ้าเทา เพื่อสร้างบรรยากาศสบายตา และให้ความรู้สึกละมุนแบบ “ย้อนวันวาน”
2. เฟอร์นิเจอร์ไม้ + ของตกแต่งจากอดีต
- ใช้โต๊ะไม้แบบลิ้นชักเก่า หรือโต๊ะเหล็กวินเทจทรงคลาสสิก
- เก้าอี้บุผ้าหรือหนังทรงย้อนยุค
- โคมไฟตั้งโต๊ะลายเรโทร หรือตะเกียงโมเดิร์นวินเทจ
- ตู้ไม้ติดมือจับทองเหลือง หรือชั้นหนังสือไม้แบบเปิดโล่ง
3. เติมเสน่ห์ด้วยของสะสม
การตั้งนาฬิกาปลุกโบราณ พัดลมเหล็ก เครื่องพิมพ์ดีด กล้องฟิล์ม หรือแผ่นเสียง ช่วยเสริมกลิ่นอายของความคลาสสิกในทุกมุม และยังเป็นจุดสนทนาเมื่อมีแขกมาเยี่ยม
4. ผสมผสานกับเทคโนโลยีอย่างลงตัว
แม้จะย้อนยุค แต่ก็สามารถใช้เทคโนโลยีให้เหมาะกับการทำงาน เช่น ใช้คอมพิวเตอร์จอใหญ่ แต่ซ่อนสายไฟด้วยกล่องไม้ หรือเลือกเก้าอี้วินเทจแต่มีความ ergonomic ซ่อนอยู่ในดีไซน์ เพื่อไม่ลดทอนความสะดวก
ตกแต่งทาวน์โฮมมือสองให้วินเทจได้ง่ายกว่าที่คิด
คุณสามารถเลือกซื้อทาวน์โฮมมือสองขนาด 2-3 ชั้น ได้จาก The Best Property ที่มีให้คุณเลือกมากมาย ทำให้คุณสามารถออกแบบให้โฮมออฟฟิศของคุณให้ดูวินเทจได้โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาล เช่น
- ใช้ ชั้นล่างเป็นโซนต้อนรับลูกค้า พร้อมมุมโชว์ของสะสม
- จัด ชั้น 2 เป็นพื้นที่ทำงานเต็มรูปแบบ พร้อมโต๊ะทำงานยาวติดหน้าต่าง และโซนพักผ่อนเล็ก ๆ
- ใช้ ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ ด้วยแสงธรรมชาติ โซฟาวินเทจ และมุมอ่านหนังสือ

โฮมออฟฟิศสไตล์วิเทจ เหมาะกับใคร?
นักออกแบบ นักเขียน หรือคนทำงานศิลปะ ที่ต้องการบรรยากาศสร้างสรรค์ เจ้าของแบรนด์สินค้าแฮนด์เมด หรือธุรกิจที่ต้องการภาพลักษณ์อบอุ่น คนที่ชอบบ้านมีสไตล์ มีของตกแต่งที่สื่อถึงตัวตน หรือคนที่ Work from home แต่ไม่อยากอยู่ในพื้นที่แข็ง ๆ แบบออฟฟิศทั่วไป
9. โฮมออฟฟิศสไตล์ทรอปิคอล ทำงานสบาย ท่ามกลางกลิ่นอายธรรมชาติ
เหนื่อยล้าจากการทำงานในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ หรือรู้สึกว่าโฮมออฟฟิศของคุณแห้งแล้งและไร้ชีวิตชีวา? โฮมออฟฟิศสไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style) คือคำตอบที่ช่วยรีเฟรชบรรยากาศให้พื้นที่ทำงานของคุณกลับมามีชีวิตและแรงบันดาลใจอีกครั้ง

สไตล์ทรอปิคอล ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในเขตร้อน ทั้งต้นไม้ใหญ่ ใบไม้เขียวสด ลมทะเล เสียงนกร้อง และแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านผ้าม่านโปร่งบาง กลายเป็นสไตล์การตกแต่งที่สร้างความผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ให้พลังงานเชิงบวกเหมาะกับการทำงานที่บ้านได้อย่างลงตัว
รีโนเวททาวน์โฮมมือสองให้เป็นโฮมออฟฟิศสุดเฟรช
สำหรับใครที่เลือกซื้อทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์มือสองจาก The Best Property แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องรีโนเวทครั้งใหญ่ก็สามารถเปลี่ยนให้บ้านกลายเป็นโฮมออฟฟิศสไตล์ทรอปิคอลได้อย่างง่ายดาย ด้วยการปรับแต่งในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ได้ผลจริง

จุดเด่นของโฮมออฟฟิศสไตล์ทรอปิคอล
1. โทนสีธรรมชาติ สบายตา
เลือกใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เช่น สีเขียวใบไม้ สีฟ้าทะเล สีขาวครีม น้ำตาลไม้ หรือเหลืองนวล สีเหล่านี้จะช่วยให้ห้องทำงานดูโปร่ง โล่ง และเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้ดี
2. เพิ่มชีวิตชีวาด้วย “ต้นไม้”
ไม้ใบขนาดใหญ่ เช่น มอนสเตอร่า (Monstera), ปาล์ม, ต้นไทรใบสัก หรือเฟิร์น เป็นตัวช่วยหลักของสไตล์ทรอปิคอล ไม่ว่าจะตั้งในกระถางมุมห้อง ห้อยจากเพดาน หรือจัดเป็นสวนแนวตั้ง (Vertical Garden) ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ทันตา
3. เฟอร์นิเจอร์ไม้และวัสดุธรรมชาติ
โต๊ะทำงานไม้ไผ่หรือหวาย เก้าอี้บุผ้าลินิน ผ้าม่านโปร่งบาง และพรมเสื่อทอมือ สื่อถึงบรรยากาศของรีสอร์ทริมทะเลในบ้านคุณได้ทันที
4. เปิดรับแสงธรรมชาติ
แสงธรรมชาติถือเป็นหัวใจของสไตล์นี้ ควรจัดโต๊ะทำงานให้ใกล้หน้าต่าง หรือใช้ม่านแบบโปร่งเพื่อให้แสงลอดผ่านมาทั้งวัน เพิ่มทั้งพลังงาน และช่วยประหยัดไฟฟ้า
5. กลิ่นอายแบบรีสอร์ท
ตกแต่งด้วยของใช้แนวโบฮีเมียน เช่น หมอนอิงลายใบไม้ โคมไฟหวาย หรือภาพพิมพ์แนว Tropical Art จะช่วยเติมกลิ่นอายของการพักผ่อน แม้จะต้องทำงานต่อเนื่องทั้งวัน

การวางผังโฮมออฟฟิศสไตล์ทรอปิคอล
การตกแต่งสไตล์ทรอปิคอลสามารถจัดสรรได้ทั้งในทาวน์โฮม 2 ชั้นและ 3 ชั้น เช่น
- ชั้น 1 เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกหรือมุมคุยงานแบบเป็นกันเอง
- ชั้น 2 โซนทำงานเต็มรูปแบบ พร้อมแสงธรรมชาติ และต้นไม้ฟอกอากาศ
- ชั้น 3 พื้นที่พักผ่อน จิบกาแฟ หรืออ่านหนังสือ
โฮมออฟฟิศสไตล์ทรอปิคอล เหมาะกับใคร?
ฟรีแลนซ์ที่ต้องการแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ คนทำงานสายครีเอทีฟ เช่น นักออกแบบ นักการตลาด คอนเทนต์ครีเอเตอร์ เจ้าของธุรกิจออนไลน์ ผู้ที่อยากมีพื้นที่ทำงานที่ให้ความรู้สึก “พักผ่อนระหว่างงาน”
10. โฮมออฟฟิศสไตล์อาร์ตเดโค (Art Deco) เสน่ห์เหนือกาลเวลา
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อกับโฮมออฟฟิศเรียบๆ ธรรมดา แล้วอยากได้พื้นที่ทำงานที่ “ดูดีทุกมุมมอง” และเต็มไปด้วยเสน่ห์เหนือกาลเวลากับ “โฮมออฟฟิศสไตล์อาร์ตเดโค” คือคำตอบที่ใช่

Art Deco คือศิลปะการตกแต่งที่เริ่มเฟื่องฟูในช่วงยุค 1920s – 1930s โดดเด่นด้วยลวดลายเรขาคณิต สีสันที่จัดจ้าน และวัสดุที่หรูหราอย่างทองเหลือง หินอ่อน และกระจก เมื่อหยิบมาใช้ในโฮมออฟฟิศ จะช่วยสร้างบรรยากาศของความคิดสร้างสรรค์แบบผู้บริหารรุ่นใหม่ที่กล้าทำ กล้าฝัน และกล้าแสดงตัวตน ความหรูหราแบบวินเทจ ผสานความทันสมัย เพื่อพื้นที่ทำงานที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
เปลี่ยนทาวน์โฮมมือสอง ให้เป็นโฮมออฟฟิศสุดเก๋ ด้วยสไตล์ Art Deco
หากคุณกำลังมองหาบ้านสักหลัง ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำงานแบบมีรสนิยม Art Deco เป็นแนวทางการตกแต่งที่ช่วยรีเฟรชบ้านเก่าให้ดูทันสมัย หรูหรา และเต็มไปด้วยเสน่ห์ The Best Property เรามีบ้านทาวน์โฮมมือสอง ให้เลือกมากมาย ในหลากหลายทำเล พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

เอกลักษณ์ของโฮมออฟฟิศสไตล์อาร์ตเดโค
1. เส้นสายที่โดดเด่น
Art Deco มีเอกลักษณ์คือ “ลายเส้นเรขาคณิต” ที่เฉียบคม เช่น ลายเส้นสามเหลี่ยม วงกลม และรัศมี ที่ให้ความรู้สึกพลังและความทะเยอทะยาน ใช้ได้กับทั้งผนัง พรม หรือแม้แต่ลวดลายโต๊ะทำงาน
2. สีทอง สีดำ สีมรกต
เลือกใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกหรู เช่น ดำ-ทอง น้ำเงินเข้ม มรกต และเบอร์กันดี ผสมผสานกับสีขาวหรือครีมเพื่อให้ห้องทำงานไม่อึดอัดเกินไป
3. วัสดุระดับพรีเมียม
เฟอร์นิเจอร์ควรเน้นวัสดุอย่างทองเหลือง ขอบกระจก กำมะหยี่ หรือหินอ่อน เช่น โต๊ะทำงานท็อปหินสีดำพร้อมขาโลหะ หรือโคมไฟทรงกลมสีทองเงา
4. ความหรูหราแบบมีศิลปะ
ตกแต่งผนังด้วยกรอบภาพสไตล์วินเทจ ภาพพิมพ์แฟชั่นยุค 20s หรือกระจกทรงเรขาคณิต และเลือกโซฟาหรือเก้าอี้ที่มีความโค้งมนอันเป็นเอกลักษณ์ของ Art Deco

การจัดวางโฮมออฟฟิศสไตล์อาร์ตเดโค
ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น สามารถจัดโซน Art Deco Office ได้อย่างลงตัว เช่น
- ชั้น 1 มุมรับแขกหรือประชุมที่เน้นดีไซน์แบบบูทีค พร้อมแชนเดอเลียร์หรือโคมไฟทอง
- ชั้น 2 พื้นที่ทำงานหลักที่ตกแต่งด้วยโทนสีหรู เฟอร์นิเจอร์แบบผู้บริหาร
- ชั้น 3 ห้องพักผ่อนที่ยังคงกลิ่นอาย Art Deco ด้วยเฟอร์นิเจอร์แนว Lounge และผ้าม่านกำมะหยี่

โฮมออฟฟิศสไตล์อาร์ตเดโค เหมาะกับใคร?
ผู้บริหาร หรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ นักออกแบบ หรือครีเอทีฟที่หลงใหลศิลปะและความคลาสสิก คนทำงานสายแฟชั่น ความงาม และผู้ที่ชื่นชอบความ “หรูหราแบบไม่จำเจ”
เปลี่ยนทาวน์โฮมธรรมดา ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศในฝัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นสายมินิมอล ครีเอทีฟ เกมเมอร์ หรือผู้บริหารสายเนี้ยบ โฮมออฟฟิศที่ดีควรสะท้อนตัวตนของคุณ และรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานในยุคใหม่ได้อย่างเต็มที่ การตกแต่งทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยจุดประกายไอเดียใหม่ๆ ได้ในทุกวัน
หากคุณกำลังมองหาทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์มือสองคุณภาพดี เพื่อรีโนเวทเป็นโฮมออฟฟิศในสไตล์ที่ชอบ อย่าลืมให้ The Best Property เป็นผู้ช่วยสำคัญในการเลือกบ้านที่ใช่ และตอบโจทย์ทุกดีไซน์ของคุณ
เริ่มต้นสร้างโฮมออฟฟิศในแบบที่เป็นคุณ… ได้ทันทีวันนี้กับ The Best Property

หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการเลือกซื้อ บ้านมือสอง บ้านเดี่ยวมือสอง ทาวน์โฮมมือสอง ทาวน์เฮ้าส์มือสอง และคอนโดมือสอง ให้ได้บ้านที่ตรงใจในราคาคุ้มค่า
เลือกซื้อบ้านมือสอง ราคาคุ้มค่า เพื่อให้คุณได้พบบ้านที่ดีที่สุดสำหรับคุณ The Best Property เราขอเป็นส่วนหนึ่งในตัวเลือกการซื้อ “บ้านมือสอง” ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือทาวน์เฮ้าส์ คอนโด อาคารพาณิชย์และที่ดิน ในขณะเดียวกัน เราพร้อมส่งต่อที่อยู่ความสุขให้กับทุก ๆ คน เพื่อให้ทุก ๆ คนในครอบครัวสามารถเข้าถึงความสุข พร้อมรอยยิ้มในทุก ๆ วัน

ส่งต่อที่อยู่ของความสุข “ค้นหาเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
The Best Property พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ด้วยข้อดีดังนี้
1. บ้านคุณภาพดี ราคาที่เหมาะสม
The Best Property เราคืออันดับ 1 เรื่องอสังหาฯ มี “บ้านมือสอง” พร้อมให้คุณเลือกชมกว่า 20,000 รายการ ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน พร้อมให้คำแนะนำด้านสินเชื่อ สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านมือสองอยู่ไม่ควรพลาด หลากหลายทำเลทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร นครปฐม และจังหวัดอื่นๆ อีกมากมาย

2. พร้อมทีมที่ปรึกษามืออาชีพ คอยให้คำแนะนำทุกขั้นตอน
The Best Property เรามีทีมนายหน้าอสังหาฯ มืออาชีพที่เชี่ยวชาญด้านการซื้อ-ขายบ้าน มีประสบการณ์ในการช่วยลูกค้าเลือกบ้านที่เหมาะสม รวมถึงทีมสินเชื่อมืออาชีพ ที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินเชื่อและการโอนกรรมสิทธิ์ จบครบในที่เดียว แล้วพบกันที่กรมที่ดิน
3. ระบบค้นหาบ้านออนไลน์ ใช้งานง่าย
เว็บไซต์ https://tb.co.th ของเรา มีระบบค้นหาบ้านที่ทันสมัย สามารถค้นหา บ้านเดี่ยวมือสอง ทาวน์โฮมมือสอง ทาวน์เฮ้าส์มือสอง คอนโดมือสอง อาคารพาณิชย์มือสอง ที่ดิน หรืออสังหาฯ อื่นๆ ได้สะดวกผ่านระบบออนไลน์ Update อสังหาฯ มาใหม่ ทุกๆ วัน ช่วยให้คุณเลือกบ้านที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว
คำแนะนำก่อนซื้อบ้านมือสอง
หากคุณตัดสินใจที่จะซื้อ บ้านมือสอง ในปี 2568 นี่คือสิ่งที่คุณควรพิจารณา
- ตรวจสอบทำเล เลือกทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง และมีศักยภาพในการเติบโต
- เช็คสภาพบ้าน ตรวจสอบโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ประปา และสภาพโดยรวมของบ้าน
- พิจารณางบประมาณและสินเชื่อ วางแผนทางการเงินให้ดี และศึกษาสินเชื่อบ้านมือสองที่เหมาะกับคุณ

การซื้อ บ้านมือสอง ในปี 2568 เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อซื้อผ่าน The Best Property ที่มีบ้านคุณภาพให้เลือกมากมาย พร้อมบริการครบวงจร หากคุณกำลังมองหา บ้านเดี่ยวมือสอง ทาวน์โฮมมือสอง หรือทาวน์เฮ้าส์มือสอง เราพร้อมช่วยคุณค้นหาบ้านที่ตรงใจที่สุด

The Best Property เราคืออันดับ 1 เรื่องอสังหาฯ โซนจังหวัดสมุทรปราการ มี “บ้านมือสอง” พร้อมให้คุณเลือกชมกว่า 20,000 รายการ ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน พร้อมให้คำแนะนำด้านสินเชื่อ อัปเดตดอกเบี้ย บ้านมือสอง 2568 กู้บ้าน สินเชื่อธนาคารไหนดีสุด สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านมือสองอยู่ไม่ควรพลาด

และด้วยประสบการณ์ด้านอสังหาฯ กว่า 10 ปี พร้อมด้วยระบบการตลาดและการประชาสัมพันธ์ที่ครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ชั้นนำด้านอสังหาฯ กว่า 21 เว็บไซต์ อีกทั้งตัวแทนนายหน้ามืออาชีพ ผ่านการอบรม ให้คุณเลือกใช้บริการกว่า 1,000 คน ทั่วประเทศ
หากใครกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อบ้าน The Best Property เป็นผู้นำด้านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ พร้อมให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากซื้อบ้าน ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเราได้ที่
เว็บไซต์: https://tb.co.th/
โทร : 02-047-4282
Facebook : Thebestpropertyhome
Line: @thebestproperty